เก่งงาน เก่งคน เก่งชีวิต: สมการใหม่ของภาวะผู้นำ
ตลอดเส้นทางการทำงาน ดิฉันมีโอกาสติดตามผลงานของผู้บริหารหญิงเก่งสองท่าน คือ คุณสมฤดี ชัยมงคล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคุณอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด แต่สิ่งที่ทำให้ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ คือ การได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นผู้นำจากท่านทั้งสองในวันที่ถอดหมวกจากตำแหน่งแล้ว
ทั้งสองท่านไม่ได้เพียงเล่าถึงประสบการณ์ในเส้นทางอาชีพ แต่ยังเปิดเผยเรื่องราวชีวิต ความท้าทาย และการตัดสินใจที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนคือ ความเป็นมนุษย์ของผู้นำ ความจริงใจ ความเรียบง่าย และความพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ มันทำให้ดิฉันเห็นเลยว่า ภาวะผู้นำที่แท้จริง ไม่ได้มาจากตำแหน่ง แต่มาจากการใช้ชีวิต
ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงภาวะผู้นำ เรามักจะพูดถึง “เก่งงาน” และ “เก่งคน”
เก่งงาน คือความสามารถในการทำงาน มองการณ์ไกล คิดกลยุทธ์ วางแผน และผลักดันองค์กรภายใต้ความท้าทาย
เก่งคน คือการดูแลทีม สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาผู้อื่นให้เติบโต
สองสิ่งนี้ล้วนสำคัญ แต่สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากทั้งสองท่านคือ ถ้าจะเป็นผู้นำที่ยั่งยืนต้องเก่งชีวิตด้วย
เก่งชีวิต ไม่ได้หมายถึงการใช้ชีวิตโลดโผน แต่มันคือการรู้จักบาลานซ์ ดูแลกายและใจ รู้จักตัวเอง รู้ว่าตอนไหนควรเร่ง ตอนไหนควรพัก หมั่นพัฒนาตนเอง เพราะถ้าผู้นำไม่สามารถดูแลชีวิตของตัวเองได้ ก็ยากที่จะดูแลใครได้อย่างแท้จริง
อีกประเด็นหนึ่งที่สะท้อนชัดคือเรื่อง “คนดี–คนเก่ง” เรามักบอกกันว่า สอนให้เก่งง่ายกว่าสอนให้ดี เพราะความเก่ง เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาได้ แต่ความดีมาจากคุณค่าภายในและการยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง
บทบาทผู้นำในฐานะผู้ให้จึงสำคัญไม่น้อย การให้ไม่ได้จำกัดแค่เวลาในการสอนงาน หรือการมอบโอกาสเพื่อให้คนเก่งได้พิสูจน์ตัวเอง แต่คือการให้ในระดับที่ลึกกว่า นั้นคือการหล่อหลอมให้คนเป็นคนดี ด้วยการการแบ่งปันมุมมอง วิธีคิด วิธีใช้ชีวิต ที่ทีมสามารถนำไปประยุกต์ได้ ไม่ใช่แค่ในงาน แต่ยังขยายผลไปสู่ครอบครัวของเขาและสังคมของเรา
โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คนเก่งเพียงอย่างเดียวอาจพาองค์กรไปได้เร็ว แต่ไม่อาจพาไปได้ไกล หากขาดความดีและสมดุลชีวิต แต่ถ้าเราได้เจอผู้นำที่เก่งงาน เก่งคน เก่งชีวิต และยังเป็นคนดี เราจะเห็นพลังบวกที่สร้างความไว้วางใจ แรงบันดาลใจและพลังอย่างมหาศาล ผู้นำที่ให้ในลักษณะนี้ กำลังสร้างคุณค่าที่ต่อเนื่องและยั่งยืน และสร้างผลสำเร็จให้แก่องค์กรที่วัดผลได้ในวันที่ผู้นำลงจากตำแหน่งแล้ว
เมื่อมองย้อนกลับไป ดิฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้ฟังสองท่านแบ่งปัน ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่เป็นบทเรียนชีวิต ที่ย้ำกับเราว่า ความเป็นผู้นำไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
นี่คือ “ผู้นำในอนาคต” ที่โลกต้องการ ไม่ใช่แค่คนเก่ง แต่คือคนที่รู้จักนำงาน นำคน และนำชีวิตได้อย่างแท้จริง