เรามักจะได้ยินคำว่า Productivity, Efficiency, Time Management จนติดหู เหมือนเป็นเป้าหมายสูงสุดของการทำงานในปัจจุบัน  ทำมากขึ้นใช้เวลาน้อยลง จัดการงานให้รวดเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

อย่างไรก็ดี องค์กรที่จะสามารถยืนอยู่ได้ในระยะยาวในยุคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ไม่ได้เพียงตั้งคำถามว่า “ทำอย่างไรให้ทีมทำงานได้ไวขึ้น” แต่ควรเพิ่มประเด็น “ทำอย่างไรให้ทีมมีพลังงานพอที่จะสร้างสรรค์ แก้ปัญหา และเติบโตได้อย่างยั่งยืน” เพราะในที่สุดแล้ว เวลาของทุกคนมีวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน เราเพิ่มเวลาไม่ได้ แต่สิ่งที่เราเพิ่มได้คือพลังงานของคน

 

คนที่เต็มไปด้วยพลังงาน สามารถสร้างผลงานได้มากกว่า คิดได้สร้างสรรค์กว่า รับมือกับความท้าทายได้ดีกว่า และส่งต่อพลังบวกให้ทีมได้ ในทางกลับกัน คนที่หมดพลังงาน ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ยากจะสร้างผลงานที่ดีที่สุดได้ และที่สำคัญคือความเหนื่อยล้าเรื้อรังคือจุดเริ่มต้นของความเครียด ความขัดแย้ง ความรู้สึกหมดไฟและการลาออกในที่สุด

 

Energy Management ไม่ใช่ทักษะส่วนตัวแต่คือความรับผิดชอบของทีม 

หลายครั้งเรามองว่าการดูแลพลังงานเป็นเรื่องส่วนตัว เช่น การนอนให้พอ การออกกำลังกาย การกินดีอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่ามีความสำคัญมาก แต่ถ้าเราเป็นผู้นำ หน้าที่ของเราคือทำให้ทีมมีพลังงานด้วย

ดิฉันได้อ่านงานเขียนของ Dr. Oliver Haas ผู้เชี่ยวชาญด้านความสุขและการเติบโตเชิงคุณภาพ ประเทศเยอรมัน ได้เสนอแนวทางง่าย ๆ แต่ทรงพลัง สำหรับคนที่อยู่ในบทบาทผู้นำ

ลองชวนทีมทำแบบฝึกหัดสั้น ๆ กันในที่ประชุม

• ลากเส้นในห้องจาก 0 ถึง 10
• 0 = หมดแรงจะล้มอยู่แล้ว
• 10 = มีพลังพร้อมจะถอนต้นไม้และทำงานเพิ่มได้อีก

ให้ทุกคนยืนตามระดับพลังงานของตัวเองในวันนี้ แล้วถามคำถามง่าย ๆ ว่า

• ทำไมถึงยืนตรงนั้น?
• อะไรคือ “ตัวดูดพลังงาน” และ “อะไรคือตัวเติมพลังงาน” ในแต่ละคน?
• อะไรคือสิ่งที่หัวหน้าควรทำหรือหยุดทำ?
• อะไรคือสิ่งที่ทีมควรช่วยกันดูแล?

การทำแบบนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Psychological Safety) ให้ทีมได้พูดคุยตรง ๆ ฟังกันและกันอย่างตั้งใ คุณจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ซ่อนอยู่ อะไรสร้างพลังให้งานเดินเร็วขึ้นอย่างมีคุณค่า  เมื่อทีมรู้ว่า เราจะไม่ปล่อยให้ใครหมดแรงคนเดียว ความช่วยเหลือเกื้อกูลจะเพิ่มขึ้น ความร่วมมือจะดีขึ้น

 

องค์กรที่ลดความเครียดได้ คือองค์กรแห่งอนาคต

ดิฉันเชื่อมั่นว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากวันนี้ไป ไม่ใช่บริษัทที่ทำงานเร็วที่สุด แต่คือบริษัทที่มีพลังที่สุด บริษัทที่ใส่ใจและลดระดับความเครียดของคนในองค์กร จะเป็นบริษัทที่ดึงดูดคนเก่งให้อยู่ได้ยาว สร้างนวัตกรรมได้จริง และแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นผู้นำในวันนี้อย่าเพียงตั้งคำถามว่า “เราจะใช้เวลาให้คุ้มค่าได้อย่างไร” “เราจะทำอย่างไรให้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล” แต่ควรถามว่า “เราจะช่วยให้ทีมมีพลังงานมากที่สุดได้อย่างไร?”

เวลาหรือทรัพยากรบางอย่างคือสิ่งเราเพิ่มไม่ได้ แต่พลังงานคือสิ่งที่เราสร้างและเติมกันได้