Jerry Mcguire
Jerry Mcguire
ผมไม่แน่ใจว่าคุณผู้อ่านกี่ท่านเคยมีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง Jerry Mcquire นำแสดงโดย Tom Cruise ออกฉายเมื่อปี 1996
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเอเย่นต์นักกีฬาคนหนึ่ง (เจอรี่) ซึ่งเกิดแรงบันดาลใจอยากเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของบรรดาเอเย่นต์ทั้งหลาย อยากทำงานด้วยความจริงใจ โปร่งใส หาทีมที่เหมาะกับนักกีฬาอย่างแท้จริง แทนสิ่งที่เป็นอยู่ นั่นคือการโป้ปดมดเท็จ หมกเม็ดข้อมูล พร้อมจะหักหลักกันทุกเมื่อ เพื่อให้เอเย่นต์ได้ค่านายหน้ามากที่สุด เจอรี่เขียนทั้งหมดนี้ลงไปใน Memo ซึ่งเขาส่งออกไปให้ทุกคนได้อ่าน รวมถึงบริษัทที่ทำงานอยู่ด้วย
ผลคือ เจอรี่ถูกไล่ออกจากงานทันที ตามมาด้วยเนื้อหาของภาพยนตร์ทั้งหมด ซึ่งผมจะไม่สปอยล์ เผื่อใครยังไม่ได้ดู
สิ่งที่จะเล่าให้ฟังวันนี้คือ ผมเพิ่งมีโอกาสได้พบกับ Jerry Mcguire ตัวจริงครับ ในหลักสูตร Leading in Ambiguity: Steering Through Strategic Inflection Points ของ MIT Sloan
เธอสองคนชื่อ Ina Kjaer และ Maggie Brereton เป็น Co-founders ของบริษัท EOS Deal Advisory ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้าน Merger and Acquisition อยู่ที่ประเทศอังกฤษ
Ina กับ Maggie เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทระดับ Big 5 ในอุตสาหกรรมที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่วันหนึ่ง ทั้งคู่พบว่า Values ของตัวเองนั้น แตกต่างเกินกว่าที่จะสามารถทำงานในแบบเดิมๆได้อีกต่อไป
“It doesn’t matter if we had all the pieces and tools, the environment wouldn’t allow (the change that we wanted to make happen) happen” ภาพที่ทั้งคู่อยากเห็นเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่ตนทำงานอยู่ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในบริบทที่เป็นอยู่
ทั้งคู่จึงตัดสินใจลาออก และจับมือกันเปิดบริษัท EOS เพื่อสร้างวิธีการทำงานแบบที่เธอคิดว่าควรจะเป็น เหมือน Jerry Mcguire เด๊ะ
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากและง่ายในเวลาเดียวกัน” Maggie บอก “ใช่ เราสองคนเป็นผู้บริหารที่ได้รับโบนัสผลงานสูงที่สุดของบริษัทในปีนั้นด้วยซ้ำไป แต่พอมองตากันแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราจึงเดินออกมาแล้วทำในสิ่งที่เราคิดว่าควรจะเป็น” Leadership is about creating a better future
“We loved our job.” Ina เสริม
หัวใจหลักของบริษัท EOS คือการทำงานด้วยความจริงใจ โปร่งใส Eyes wide open หาดีลที่เหมาะกับลูกค้าอย่างแท้จริง ลงทุกรายละเอียดเพื่อสร้างประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดูแลพนักงานเฉกเช่นคนในครอบครัว แทนการมุ่งเน้นขนาดของโครงการให้ใหญ่ แข่งขันกันด้วยผลตอบแทนและตัวเลข กระทั่งให้พนักงานทำงานล่วงเวลาโดยไม่จำเป็น เพื่อเก็บเงินลูกค้าให้มากที่สุด
“มันมีหลายเรื่องที่เราอยากจะเปลี่ยนแปลง เช่น คุณรู้ไหมว่าทำไมพนักงานผู้หญิงที่ลาคลอดจึงเสียเปรียบผู้ชายเสมอด้านความก้าวหน้า มันไม่ใช่เวลาที่หายไป แต่มันคือธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทที่จะ ‘ดอง’ พนักงานซึ่งตั้งครรภ์ ไม่มีใครอยากรับพวกเธอเข้าโปรเจ็คดีๆสำคัญๆ ให้ไปทำงานที่ไม่มีคุณค่าอะไร ทำงานเอกสาร ทั้งก่อนและหลังคลอด” Ina เล่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เราจึงเปลี่ยนนโยบายนั้นเสียใหม่ ที่ EOS เราจัดให้พนักงานเหล่านี้ทำโปรเจ็คที่เจ๋งที่สุด สร้างชื่อให้พวกเธอได้มากที่สุด ผลน่ะหรือ ไม่เพียงแต่เราผู้หญิงเหล่านี้ไม่ล้าหลังเท่านั้น พวกเธอทำงานได้ดีกว่า ได้รับการโปรโมตก่อนผู้ชายที่ไม่ได้ลาคลอดหลายๆคนด้วยซ้ำไป”
What did you learn about this whole journey? ผู้ฟังในห้องคนหนึ่งถาม
- Values Matter คุณค่าประจำใจเป็นสิ่งสำคัญ มันคือเข็มทิศที่ใช้นำการตัดสินใจของผู้นำ We had no plan when we left our job; we just knew we needed to leave เราไม่ได้มีแผนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในวันที่เราเดินออกมา เรารู้แค่ว่า ‘ใจ’ มันไม่ได้แล้ว
- If you are doing what you are supposed to be doing, when you fail you will bounce right back up ถ้าคุณกำลังทำในสิ่งที่ตรงกับ Values และ Purpose ของคุณ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง คุณจะมีแรงลุกขึ้นมาเสมอ
- Pay attention to common values when you partner with someone พารท์เนอร์ทางธุรกิจ มักเริ่มต้นด้วยเป้าหมายร่วม Common Purpose เราอยากจะทำนั่นทำนี่เหมือนกัน งั้นมาทำด้วยกันดีไหม แต่สิ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยืน คือ Common Values ศีลประจำใจที่เหมือนกัน
We both love honesty – we love the truth. We can tell each other everything and always be positive about it. We not only have a common dream, but we also share a common path to get to that dream
Jerry Mcquire เดินออกมาจากจุดที่เขาอยู่ เพราะอยากสร้างภาพที่อยากเห็นให้เป็นจริง
Ina และ Maggie ก็เดินออกมาจากจุดที่เธอทั้งสองอยู่ เพราะอยากสร้างภาพที่อยากเห็นให้เป็นจริง
คุณผู้อ่านล่ะครับ ภาพที่ว่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร?