ทำไมต้องเปลี่ยน? ไม่เปลี่ยนได้ไหม?

“พวกเราทราบว่าเรื่อง Change มันพูดกันมานานแล้ว เรียนก็เรียนมาเยอะ แต่ทุกวันนี้เรายังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนเร็วและแรงมาก อยากให้อาจารย์มาเล่าเทรนต่าง ๆ ของโลกว่าตอนนี้ข้างนอกเขาเปลี่ยนกันไปถึงไหนแล้ว คนของเราจะได้เปิดหูเปิดตาแล้ววิ่งตามกระแสโลกให้ทันและรู้ว่าพวกเขาต้องเปลี่ยน” กรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งกล่าว

 

ในช่วงปีที่ผ่านมา ดิฉันได้รับโจทย์แบบเดียวกันนี้จากผู้บริหารหลากหลายองค์กร หลากหลายกลุ่มธุรกิจให้ช่วย เดินสายปลุกกระแสให้พนักงานทุกระดับเปลี่ยน!! ดิฉันเดินสายพูดเรื่องนี้ไม่ต่ำว่า 50 รอบในเวลาไม่ถึงปีทั้งในรูปแบบบรรยายและลงมือทำโครงการที่ปรึกษาร่วมกับกลุ่มผู้บริหาร สังเกตได้ว่าเวลาทุกคนได้ฟังกรณีศึกษาของคนอื่นทั้งสำเร็จทั้งล้มเหลว ฟังยังไงก็สนุก ดูตื่นเต้นเห็นเกมส์ใหม่ ๆ ของโลก ทุกคนรู้ว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ได้ และรู้ว่าเราต้องเปลี่ยน!!!    

 

คุณรู้ไหมว่า…

หุ่นยนต์จะมาทำงานแทนพวกคุณ???

ธุรกิจของคุณอาจถูกทำลายล้าง (disrupt)???

เด็กเจน Z กำลังเข้าสู่โลกทำงานในปีหน้า???

เทคโนโลยีสามารถสร้างโอกาสมหาศาลให้กับธุรกิจของคุณ???

 

คำถามเหล่านี้ตอบไม่ยาก แต่ที่ต้องคิดกันนานทำเอาเหล่า Change Agent หรือ Change Leader ถึงกับขมวดคิ้วเริ่มไม่สนุกกันแล้วก็ตอนเจอคำถาม “เมื่อเราหลีกเลี่ยง Change ไม่ได้ แล้วคุณเตรียมความพร้อมให้ตัวคุณ ให้คน ให้องค์กรอย่างไร”

 

เมื่อนี่คือนโยบาย พนักงานผู้บริหารหลายคนก็ตอบรับนโยบายกันไป แต่ในใจหลายต่อหลายคนคงมีคำถามวนเวียนอยู่ในหัว  “ทำไมต้องเปลี่ยน? ไม่เปลี่ยนได้ไหม?” “รู้แล้วว่าทำไมต้องเปลี่ยน แต่…ไม่เปลี่ยนได้ไหม?”

 

ดิฉันอมยิ้มทุกครั้งเมื่อนึกถึงตอนที่ถามคำถามเดียวกันนี้กับคุณธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกเลยคนนี้ผู้นำ 4.0 ตัวจริง!

 

คุณธรณ์ เล่าให้ฟังว่าตอนที่เข้ามาบริหารบริษัทในช่วงแรก ผมรู้ว่าทุกอย่างที่นี่ตอนนี้โอเคมาก…เมื่อทุกอย่างโอเคก็ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนเพื่ออนาคต! คุณธรณ์ไม่รีรอ เดินสายสื่อสารปลุกกระแสใช้เรื่องเล่าสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานทั้งองค์กรอยากเปลี่ยน “เราจะไปเปิดตลาดนอกประเทศ” สำหรับสินค้าแบรนด์ไทยโดยคนไทยเมื่อจะไปตลาดตะวันตก นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย!! แต่เมื่อพนักงานอยากไปด้วย นี่จึงไม่ใช่เรื่องยาก!!!! 

 

ทีมงาน Change Agent ก็เดินสายสื่อสารไม่ว่าจะ โบชัวร์ ป้ายประกาศ อีเมล์ เพื่อตอกย้ำความอยาก และกลยุทธ์ที่น่าทึ่งอันหนึ่งคือต้องการพาพวกเขาไปเห็นของจริง เรียกได้ว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

 

“ฉันเพิ่งรู้ว่าถ้าเราจะไปขายของในอเมริกา มันมีความท้าทายมากมายขนาดนี้ ฉันเห็นว่าเราต้องใช้ความพยายามมหาศาลที่จะทำให้ฝรั่งเขายอมรับสินค้าบ้านเรา และฉันก็เห็นทีมเปิดตลาดของเราทำอย่างเต็มที่สู้ไม่ถอย ในฐานะที่ฉันเป็นจัดซื้อฉันเห็นกับตา ฉันรู้เลยว่าหน้าที่ของจัดซื้อต้องยิ่งสนับสนุนหาวิธีที่ทำให้พวกเราสำเร็จให้ได้” พนักงานจัดซื้อท่านหนึ่งกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายให้กับเพื่อน ๆ ในองค์กรฟังหลังจากที่เธอได้รับโอกาสให้ร่วมเดิมทางไปกับส่วนพัฒนาธุรกิจสู่น่านฟ้าอเมริกา เรียกว่าเอาอยู่ทั้ง “Head และ Heart” ของพนักงานทั้งองค์กร และเมื่อเปิดตลาดต่างประเทศสำเร็จรายแรกจะรีรออะไร ฉลองความสำเร็จแรกกันทั้งองค์กรเพราะนี่คือความสำเร็จของพวกเราชาว TOG และเตรียมลุยต่อ

 

“ถ้าถามผมว่า 3 ปีที่ผ่านมา Change Vision ที่ตั้งไว้นั้นประสบความสำเร็จแค่ไหน ผมคิดว่าเรายังไปถึงตรงนั้นไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าสิ่งที่เราได้มาเกินร้อย นั่นคือเราผ่านกระบวนการเตรียมคน ทัศนคติ วิธีคิด ศักยภาพให้พวกเขาอยากนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทุกวันนี้และอนาคตข้างหน้ามันยังมีการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน บางอย่างเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และจะเปลี่ยนไปไหนต่อ แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นอะไร พวกเราพร้อมที่จะรับมือกับมัน!!” คุณธรณ์กล่าว

 

เมื่อได้ทั้ง Head ทั้ง Heart ทำให้คน อยากเปลี่ยน มากกว่า ถูกเปลี่ยน เช่นนี้ คำถามเดิม ๆ  “ทำไมต้องเปลี่ยน? ไม่เปลี่ยนได้ไหม?” ก็คงหมดไป

Ready to start your Leadership Journey?