เปลี่ยนวิธีมองโลก

 “อาจารย์จะไปทำงานให้ประเทศอื่นทำไมคะ อยู่พัฒนาคนไทยดีกว่า” HR ท่านหนึ่งเอ่ย เมื่อได้ข่าวว่าผมจะเดินทางออกมาทำงานต่างประเทศ

 

 

Leading-Out-of-Thailand วันนี้จะชวนคิดว่า ในยุคปัจจุบันที่เราอยู่ บางทีมุมมองนี้อาจต้องเปลี่ยนไป

สมัยคุณพ่อผมไปเรียนที่อเมริกา นักเรียนไทยมีอยู่สิบกว่าคน ไม่ว่าอยู่มหาวิทยาลัยไหน ๆ ก็รู้จักกันหมด จบแล้วทุกคนกลับมาช่วยกันพัฒนาชาติ จนแก่ก็ยังเลี้ยงรุ่นยังกินข้าวด้วยกันเป็นกลุ่มก้อน

 

 

สมัยนี้ เห็นคนเดินมาเป็นกลุ่ม ลองเอาก้อนกรวดปาไป ผมเชื่อว่ามีโอกาสถูกคนที่เป็นนักเรียนนอกมากกว่าคนที่ไม่เคยไป

คุณพ่อไปเรียนมัธยม กลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยครั้งแรกก็เกือบจบมหาลัยแล้ว สมัยผมไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว อย่างเก่งก็กลับปีละครั้ง

 

 

เด็กสมัยนี้ บางคนแค่หยุดยาวสามสี่วันก็บินกลับมา “อ้าวนันท์ ยูไปเรียนอังกฤษแล้วไม่ใช่เหรอ?” ผมทักหลานสาว “ใช่ค่ะ แต่อาทิตย์นี้โรงเรียนหยุด หนูไม่มีอะไรทำเลยกลับมา” โฮ่ โลกเราแคบดีแท้

 

 

เด็กสมัยนี้ คำว่าประเทศไม่ได้มีความหมายเหมือนที่เคยเป็น

 

Hey, where are you from?” ผมถามเพื่อนของลูกที่ว่ายน้ำอยู่ในสระ เจ้าตัวทำหน้างงยิ่งนัก “What do you mean?”

 

 

ผมทำหน้างงบ้าง คำถามตรูยากตรงไหน

 

มาถึงบางอ้อตอนได้ยินคำถามกลับ “Do you mean where I was born? Or where I grew up? Or where I lived the longest? Where I liked the most? Or where I last moved from?”

 

เออ คำถามเราตอบยากจริง ๆ แหละ

 

ผู้นำอินเตอร์ต้องฝึกมองโลกแบบใหม่นี้ ซึ่งแบบฝึกหัดของคุณคือ

  1. ครั้งต่อไปที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ลองเปลี่ยนมุมมองจากนักท่องเที่ยวเป็นเจ้าของประเทศ
  2. มีอะไรที่คุ้นเคย มีอะไรที่แตกต่าง หากเป็นคนที่นี่ คุณจะทำตัวอย่างไร?
  3. ถ้าให้มาทำงาน มาอยู่ที่นี่ จะมาไหม เพราะอะไร?
  4. ระหว่างทริป ลองสังเกตตัวเองว่า ใช้กรอบความคิดแบบ ‘คนไทย’ ตอนไหนบ้าง เช่น “อาหารบ้านเราอร่อยกว่า”
  5. เมื่อจับความคิดตัวเองได้แล้ว คราวนี้ลองปรับสมองตัวเองให้อินเตอร์ขึ้น ให้กว้างกว่าความเป็นไทยที่เติบโตมา
  6. ส่วนขั้น Advance คือ ลองฝึกจับความคิดคนอื่นรอบตัว มีเพื่อนร่วมทริปที่ยังมองโลกแบบเก่าอยู่ไหม อย่างไร

 

ฟุตบอล AFC Asian Cup เพิ่งจบไป เส้นทางของทีมลูกหนังไทยหยุดอยู่ที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังทีมชาติจีนเฉือนเรา 2-1 ประตู แฟนบอลฮาร์ตคอร์หลายคน เข้าไปถล่มไอจีของนักฟุตบอล ว่าเตะยังไงถึงแพ้ ที่รับไม่ได้คือถูกเพื่อนบ้านเยาะเย้ยว่าทีมเค้าไปได้ไกลกว่า

 

หนึ่งในนักเตะที่ได้รับผลกระทบคือ คริสตอง โด ซึ่งเป็นผู้เล่นหลายเชื้อชาติ จนเจ้าตัวออกมาชี้แจง ผมอยากให้ลองอ่านสิ่งที่เค้าเขียน

 

“ผมแค่อยากจะพูดคุยเรื่องนี้ให้ทุกคนเข้าใจ ผมมีความภูมิใจที่คุณปู่ของผมเป็นคนเวียดนาม และเขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมาตลอด ผมมีความภาคภูมิใจเหมือนกับคุณพ่อของผมที่เขาเกิดในประเทศไทย และได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในประเทศไทยมาตลอด พอๆ กันกับที่ผมมีความภาคภูมิใจที่คุณแม่ของผมเป็นคนฝรั่งเศส ผมภูมิใจที่มีส่วนหนึ่งในสังคมปัจจุบัน ที่มีหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรม เหมือนกับคนหลาย ๆ คนที่อยู่บนโลกใบนี้มาจนถึงปัจจุบัน การที่มีหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรมนั้นสร้างให้ผมเจริญเติบโตเป็นผมคนนี้ในวันนี้ได้“

 

“ผมดีใจกับทีมเวียดนาม และผมก็ดีใจด้วยกับฟุตบอลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่ทำให้ทีมจากอาเซียนทุกทีมแข็งแกร่งขึ้น เราทุกคนควรเป็นกำลังใจให้กันและกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน แล้วเราทีมอาเซียนทุกทีมจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก เรามาร่วมมือ ร่วมความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวกันเถิด เปิดความคิดของเราให้กว้างไกล นี่คือปี 2019 แล้ว (ปีไทย 2562)”

 

ไม่ว่าผลการแข่งขันกีฬาของเราจะเป็นอย่างไร คริสตอง โด ได้ใจผมไปเต็ม ๆ

 

Habit เกิดขึ้นจาก Focus และ Repetition หากเราปล่อยให้สมมองติดกับดักที่ตัวเองสร้างขึ้น เราก็จะมีแค่เคยมีเคยเป็น ยิ่งถ้าสิ่งนั้นไม่สร้างประโยชน์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเม้นท์ไอจีโยนความผิดให้ผู้อื่น

 

หากเราฝึกโฟกัสสมอง แผนที่ของเราก็สามารถเปลี่ยนไปได้ หากเราคิดว่าเราเป็นคนไทย เราก็จะมองโลกอย่างไทย ๆ หากอยากไปอินเตอร์ เราอาจต้องเปลี่ยนวิธีมองโลกใหม่ให้กว้างขึ้น

 

อยู่ที่คุณแล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกมองอย่างไร

Ready to start your Leadership Journey?