ใจเหนือคน
“อาจารย์ครับ..
สิ่งที่ทำให้ยอดขายบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายในหลายๆ ปีที่ผ่านมาเป็นเพราะพนักงานของเราทำงานแบบใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลงานและเป้าหมายที่ตนเองได้รับเลย เราเพิ่งเปลี่ยนระบบประเมินผลใหม่เมื่อปีที่แล้ว เราหวังว่ามันจะเป็นเครื่องช่วยให้หัวหน้างานบริหารทีมขายไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ แต่แล้วทำไมทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม!!!” กรรมการผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่งรำพึงให้ดิฉันฟังระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน
ดิฉันย้อนนึกถึงผู้บริหารท่านหนึ่ง ที่ดิฉันเคยมีโอกาสขึ้นเวทีสัมภาษณ์และรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืมคือ “ดร. สมชาย เหล่าสายเชื้อ” เจ้าของอาณาจักรโตโยต้าดีเยี่ยม โชว์รูมโตโยต้าที่ยิ่งใหญ่สวยงามและทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
รู้ไหมค่ะว่า “คุณสมชาย” ทำได้อย่างไร ทั้งๆ ที่…
เขาจบแค่ ป. 5 ตอนอายุ 14 ปี คิดว่าตนเองเป็น “คนเรียนโง่” จนอับอายขายหน้าไม่กล้าเรียนต่อ จึงหนีไปทำงานเป็นลูกจ้างนานกว่า 24 ปี เขาทำทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเด็กขายหนังสือ พิมพ์ กรรมกรแบกหาม ขายปุ๋ย ขายหัวอาหารสัตว์ ขายวัสดุก่อสร้าง คนส่งเป็ปซี่ เด็กล้างรถ พนักงานขาย เลื่อนมาเป็นผู้จัดการ แล้วมาเป็นเจ้าของธุรกิจอีก 24 ปี เพราะปรัชญาการทำงานแบบ “ดีเยี่ยม” คือนโยบาย “ต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น” ที่สองไม่เอา
ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่ดิฉันได้พูดคุยกับ “คุณสมชาย” บนเวทีเสวนา บอกได้เลยยิ่งคุยยิ่งมัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก ยิ่งคุยยิ่งตะลึงในแนวคิดของผู้ชายวัย 62 ปีท่านนี้ ในช่วงท้ายการสัมภาษณ์ มีผู้ร่วมฟังหลายท่านยกมือถามคำถาม เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เอาปัญหาจริงที่ยังแก้ไม่ตกมาถกกัน
“ท่านมีกลยุทธ์อย่างไรทำให้ทีมขายสามารถขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ” ผู้ฟังท่านหนึ่งยกมือถาม
“คุณสมชาย” ยิ้ม
“แค่บอกพนักงานขายมองไปที่โกดังเก็บรถแล้วบอกว่าพวกคุณมีหน้าที่ขายรถในสต๊อคให้หมดสต๊อคเท่านั้นแหละ นี่คือ
หน้าที่ของคุณ” พวกคุณขายเยอะๆ กลัวรวยเหรอ
ท่านมีวิธีการจัดการกับพนักงานที่เป็น Poor Performer อย่างไรครับ” ผู้ฟังอีกท่านถาม
“คุณสมชาย” ยิ้ม แล้วตอบว่า “ผมคงไม่จัดการอะไรกับเขา ผมคิดว่าพนักงานก็เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันแล้วเรียกเขามาพบ ผมจะเดินเอาแขนไปโอบไหล่ของเขาและคุยกันเเบบรู้สึกเห็นใจเขาว่าเขาติดปัญหาอะไร ทำไมขายไม่ได้
“ทำไมผมสามารถทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรืองได้ ทำให้คนอื่นก้าวหน้าได้ แต่ลูกน้องของพี่คนนี้คนเดียว ทำไมพี่ทำให้น้องเจริญก้าวหน้าไม่ได้” น้องมีอะไรไม่สบายใจไหม บอกพี่ได้นะ ถ้าผมทำให้น้องก้าวหน้าไม่ได้ น้องว่าพี่ควรลาออกดีไหม พี่คงไม่สามารถเป็นผู้บังคับบัญชาของน้องได้ พี่ควรลาออกดีไหม? ทุกคนที่ฟังแล้วอึ้งกันไปทั้งห้องจริงๆ ที่นี่บริษัทพี่ แล้วพี่จะลาออก มันคืออะไร? แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อครับ ผู้ฟังท่านเดิมถามต่อ “น้องเขาก็กลับไปคิดคืนนึง แล้ววันรุ่งขึ้นเขาเลยเดินมาขอใบลาออกเองครับ” ที่เราไม่ประสบความสำเร็จเพราะเราเลี้ยงคนไม่พิการกายแต่พิการใจ“ คุณสมชายกล่าว
สุดท้าย “จากชีวิตกรรมกรสู่เจ้าของอาณาจักรหลายหมื่นล้าน ท่านมีเคล็ดลับสู่ความสำเร็จอย่างไรค่ะ” ผู้ฟังท่านหนึ่งถาม
“ความจริงผมไม่ใช่คนเก่ง และผมก็ไม่มีอะไรที่เหนือใคร ผมมีเเต่ใจเท่านั้นที่เหนือคนครับ”
หมัดเดียวอยู่เลย
คนเราทุกคนคงเจอปัญหาไม่ต่างกัน ยิ่งเรื่องขององค์กร มีอยู่ไม่กี่เรื่องวนเวียนกันไป ปีไหนผลงานดีก็ดีไป ปีไหนไม่ดี เรามักหาระบบมาจัดการกับคน
การบริหารคน ไม่ได้เกิดจากการบริหารด้วยระบบเพียงอย่างเดียว แต่ต้องบริหารด้วยความรัก ความเข้าใจ ความปรารถนาดีด้วย
“ใช้ใจที่เหนือคน” นี่คือสูตรลับความสำเร็จในการบริหารตนเองและองค์กรสู่การเป็นบริษัทชั้นนำอันดับ 1 ของ “ดร. สมชาย เหล่าสายเชื้อ”