เมื่อปี 2009 Shelby Clark กำลังเรียน MBA อยู่ที่ Harvard เขามีนัดเลี้ยงอาหารเย็นวันขอบคุณพระเจ้านอกเมืองบอสตัน หิมะตกหนักมากจนรถรับส่งสาธารณะปิดทำการ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากการเช่ารถ ถึงกระนั้น บริษัทที่พอมีรถว่างก็อยู่ห่างออกไปหลายไมล์

เชลบี้จึงต้องขี่จักรยานจากหอฝ่าพายุไปเอารถ ระหว่างทาง เขาขี่ผ่านรถยนต์มากมายซึ่งจอดเรียงรายอยู่ ความคิดบ้าๆก็เกิดขึ้นในหัว “Why am I riding all the way to pick up a rental when there are so many (unused) cars here? I should just take one of them!” ทำไมฉันต้องมาขี่จักรยานลุยหิมะอยู่เนี่ย มันจะดีกว่าไหมถ้าฉันสามารถใช้เจ้ารถที่จอดกันอยู่ข้างทางเหล่านี้

จากความคิดบ้าๆ นั้น เชลบี้นำมันมาเป็นไอเดียของ Start-Up ชื่อ Turo (ในเวลานั้นใช้ชื่อเดิมคือRelayRides) เทคโนโลยีไม่ใช่อุปสรรค เพราะการทำธุรกิจแบบ platform เริ่มเกิดให้เห็นแล้วในช่วงนั้น แต่ประเด็นใหญ่กลายเป็นเรื่องประกัน หรือพูดให้ชัดคือการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของบริษัทประกัน

อย่างที่เรารู้กันดี ประกันรถเช่าหมายถึงความคุ้มครองของบริษัทเช่ารถใหญ่ๆ อย่าง Avis Hertz หรือEnterprise แต่ Turo กำลังพูดถึงการทำประกันชั่วคราวให้คนแปลกหน้าเอารถยนต์ส่วนตัวของคนอื่นไปใช้ จะรู้ได้ไงว่าเวลาคุ้มครองจะเริ่มตอนไหน แล้วจะจบตอนไหน ต้องคุ้มครองเท่าไหร่ ขับไปทำอะไร ประวัติคนขับเป็นอย่างไร แล้วมีรถเป็นร้อยๆพันๆหมื่นๆคันจะดูแลกันยังไง กระบวนการเคลมล่ะ ฯลฯ

ด้วยความมุ่งมั่น เชลบี้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จนประสบความสำเร็จ ทริปแรกเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 ลูกค้าที่เช่ารถกับ Turo สามารถใช้แอพเพื่อค้นหารถในพื้นที่ ระบุวันเวลาที่ต้องการ หลังจากนั้น ระบบจะบวกค่าดำเนินการ และมีตัวเลือกประกันความคุ้มครองตั้งแต่ premium standard ไปจนminimal

ในปี 2020 Turo reached one billion dollars in cumulative global gross revenue!

ผมเขียนเรื่องนี้ ไม่เพียงเพราะ Turo เป็นตัวอย่างเส้นทางแห่งผู้นำที่ประสบความสำเร็จ แต่เพราะผมเองก็เป็นลูกค้าประจำของเขาเช่นกัน เดี๋ยวนี้แทบจะเลิกใช้บริการบริษัทรถเช่าไปเลยถ้าไม่จำเป็นครับ

ข้อดีที่สุดของ Turo สำหรับผมคือ การรู้ว่าเราจะได้รถคันไหน ผมเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นหนามยอกอกหลายคนซึ่งใช้บริการรถเช่าในอดีต เพราะไม่ว่าบริษัทไหนก็ไม่สามารถบอกเราได้ว่ารถคันที่เราจะได้นั้น เป็นรุ่นไหน ยี่ห้อไหน อย่างเก่งก็แค่ให้คำนิยามกว้างๆมาว่า Standard หรือ Full หรือ Compact ผมกล้าพูดว่าตั้งแต่เช่ารถกับบริษัทมา ผมไม่เคยได้รถตรงกับรูปในเอกสารเลยสักครั้ง

Turo แก้ปัญหานี้ได้เบ็ดเสร็จมาก เพราะรถคันที่คุณเช่า จะเป็นรถที่คุณได้รับ คันนี้ทะเบียนนี้เลย ฉะนั้นใครที่บ้าการวางแผนอย่างผม มันตอบโจทย์มาก สามารถ Google ดูได้ล่วงหน้าว่าขนาดรถคือเท่าไหร่ ใส่กระเป๋าได้กี่ใบ

บางท่านอาจแย้งว่า อาจารย์เรื่องมาก มันสำคัญแค่ไหนกันเชียวว่าจะได้ Honda หรือ Toyota หรือ Hyundai มีรถก็ขับๆไปเหอะ ส่วนใหญ่ก็จริงครับ แต่บางกรณี เช่นเวลาผมต้องขนสัมภาระของลูกไปส่งโรงเรียน ผมต้องการความมั่นใจว่า พอลงจากเครื่องบิน รถจะนั่งได้ครบคนและใส่ของทั้งหมดได้พอ ไม่ใช่ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกต่อคิวเปลี่ยนรถสองสามครั้ง (เคยทำมาแล้วครับ) เพราะรถเล็กเกินไปยัดกระเป๋าไม่หมด

หรือใครที่บ้ารถอย่าง อ.ธรณ์ พี่ชายผม ก็สามารถเลือกยี่ห้อรถตามชอบได้เลย อยากจะลองขับ Tesla ก่อนจอง อยากจะลอง Ferrari Lamborghini ก็มีให้เลือก ค่าประกันอาจวิ่งจู๊ดตามค่าเช่าไปด้วย แต่คนรสนิยมสูงรายได้ต่ำ เอ๊ย รายได้สูง ย่อมไม่เป็นประเด็น

ความคิดบ้าๆ + leadership = a better future ครับ