ผู้นำกับปัญหาชอบทำงานกับคนที่คิดหมือนกัน

เมื่อพูดถึงความหลากหลายในองค์กร คนส่วนใหญ่มักมองความหลากหลายในเรื่องเพศและวัย​

 

แท้จริงแล้วความหลากหลายมีหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ความคิด นิสัย ไปจนถึงบุคลิกภาพ

 

มีการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นประโยชน์ของความแตกต่างหลากหลายอันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม แต่ในชีวิตจริงเรามักชอบทำงานกับคนที่เหมือนเรา! ขาลุยเหมือนกัน ชอบคิดอะไรเหมือนกัน ในขณะเดียวกันเรามักรู้สึกว่าคนที่แตกต่างจากเรานั้นดีลยาก

 

สิ่งเหล่านี้นำไปสู่อคติโดยไม่รู้ตัวของผู้นำ ส่งผลต่อการตัดสินใจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการรับคนเข้าทีมหรือตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กับคนที่มีสไตล์คล้าย ๆ เรา

 

John Kotter กูรูด้านการเปลี่ยนแปลง ตอกย้ำว่าทีมการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความเร็จต้องประกอบไปด้วยทีมผู้นำที่มีลักษณะที่หลากหลาย เพื่อที่เราจะได้มุมมองที่แตกต่าง โดยแบ่งผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็น 4 แบบ

 

  1. Driver ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เน้นผลลัพธ์ ให้ความสำคัญกับการผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ยึดคติถ้ารบแล้วชนะ ตายบ้างไม่เป็นไร
  2. Analyzer ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เน้นวิธีการ ให้ความสำคัญว่าเราควรทำอย่างไรให้สำเร็จ ยึดคติดรบอย่างไรให้ชนะ
  3. Includer ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เน้นคน ให้ความสำคัญว่าเราควรเอาใครมามีส่วนร่วม
  4. Empathizer ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการมีส่วนร่วม ให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบกับใครบ้างอย่างไร

 

ลองสำรวจกันสักนิดว่าทีมของคุณมีความหลากหลายของผู้นำครบทุกรูปแบบหรือไม่ เพราะในวันนี้เราคงไม่ปฏิเสธว่าโลกแห่งการทำงานของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะทำงานในจุดไหนก็ขององค์กร ก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น

 

ก่อนโควิดผู้นำองค์กรต้องใช้เวลาอย่างมากในการสื่อสารเพื่อให้คนในองค์กรเห็นความจำเป็น รู้เหตุผลของการเปลี่ยนแปลง และในวันนั้นเราเชื่อว่ากุญแจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่สำเร็จคือการมีผู้นำที่เก่ง สามารถชี้นิ้วบอกทีมได้ว่าเราจะไปทางไหน

 

หลังการระบาดของโควิด คนส่วนใหญ่ในองค์กรต่างรู้ดีว่าวันนี้หากไม่เปลี่ยนแปลง มีโอกาสรอดยาก และการมีผู้นำเก่งเพียงคนเดียวไม่พอ ในวันนี้ผู้นำองค์กรจึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วทั้งองค์กรเกิดการลงมือทำเปลี่ยนแปลง การรอคำสั่งจากผู้นำที่เก่งคนเดียวไม่ทัน เพราเมื่อผู้นำไม่อยู่ คนก็ไปไม่ถูก ทำให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นขาดความยั่งยืน

 

สถานการณ์เช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องลงไปคลุกคลีกับคนทำงานที่หลากหลาย เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ ของเขา ทดลองลงมือทำร่วมกัน รับฟัง feedback จากคนทำงานเพื่อเข้าใจอุปสรรคของการเปลี่ยนแปลง ช่วยขจัดอุปสรรค และชื่นชมเน้นย้ำพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงที่สำเร็จเพื่อรักษาแรงกระตุ้น ไปจนถึงหาสมดุลระหว่างพฤติกรรมเดิมที่คงต้องเก็บรักษาไว้ และสิ่งใหม่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงต่อไปอีกเรื่อย ๆ อย่างไม่มีวันจบสิ้น

Ready to start your Leadership Journey?