ผู้นำแห่งอนาคต

“ผู้บริหารแค่บอกว่าอยากให้เราเปลี่ยน ถ้าเราทำเหมือนเดิมอนาคตอาจไม่รอด แต่ไม่บอกชัดเจนว่าอยากให้พวกเราเปลี่ยนไปเป็นอะไรและขั้นตอนต้องทำอย่างไร!!  ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากเปลี่ยนนะ แต่ทำไมพวกเราถึงถูกเลือก  ในกรณีแบบนี้ผู้บริหารควรลงมาเล่นด้วย ลำพังพวกเราอยู่ตรงกลางคงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้!!”….สมาชิกทีม Change Agent  ขององค์กรเอกชนองค์กรหนึ่งนั่งจับกลุ่มคุยกันหน้าห้องก่อนเปิดงานโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ

 

ประโยคบอกเล่าดันเข้าหูข้างต้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับทีมที่ปรึกษาที่ทำงานด้านพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง และถือเป็นประโยคคลาสสิกที่ได้ยินอยู่เสมอไม่เพียงแต่จากกลุ่มพนักงานหรือกลุ่ม Change Agent แม้แต่จากผู้นำเบอร์หนึ่งขององค์กรเองหลายต่อหลายครั้งก็ยังสารภาพว่า “ผมรู้ว่าเราต้องเปลี่ยน ถ้าเราทำแบบเดิมเราคงเสียส่วนแบ่งทางตลาดแน่ แต่ผมก็ยังนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร??”

 

สูตรสำเร็จการเปลี่ยนแปลงมีมั้ย???  ดิฉันนั่งคิดว่าถ้าเรามีสูตรสำเร็จมานำเสนอ ทุกองค์กรคงชนะเลิศ  และนี่คือสิ่งที่หลายคนร้องหา…บอกมาสิจะให้เปลี่ยนอย่างไร!

 

ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสนั่งคุยกับผู้บริหารองค์กรชั้นนำระดับโลกแห่งยุคดิจิตัลหลากหลายองค์กร รวมไปถึงได้มีโอกาสนั่งคุยกับผู้นำรุ่นใหม่ไฟแรงในแวดวงธุรกิจสตาร์ทอัฟ  สิ่งหนึ่งที่ดิฉันสังเกตเห็นจากผู้นำแห่งยุคดิจิตัลไม่ว่าจะองค์กรเล็กใหญ่ คือแนวคิดที่เปลี่ยนไป การคิดแบบเส้นตรง (Linear Thinking) เช่น บอกมาสิจะให้เปลี่ยนเป็นอะไร ขั้นตอนคืออะไร หนึ่ง สอง สาม สี่…การคิดแบบ หนึ่งไปสองๆ ไปสามๆ แล้วไปสี่ดูจะไม่ได้เป็นไอเดียสำหรับผู้นำแห่งอนาคต ผู้นำแห่งโลกดิจิตัลต้องเปิดใจรีบคิดรีบลอง ถ้าทำแล้วมันเวิร์คก็ต้องรีบพัฒนาต่อให้ดีขึ้น ถ้าทำแล้วมันไม่เวิร์คก็รีบหยุดแล้วไปทำอย่างอื่นที่มีมูลค่าต่อ นั่นคือ หนึ่งแล้วไปสอง ถ้าสองดูไม่เวิร์คมีทางอื่นอีกมั้ยซึ่งอาจข้ามไปสี่ไปห้าได้เลย

 

คุยกับคุณแชมป์ ปุณยธร สุทธิพงษ์ชัย ผู้ก่อตั้ง Creative Ventures หนุ่มไทยอายุเพียง 30 ต้นๆ นักลงทุนคนไทยคนแรกในซิลิคอนวัลเลย ได้แลกเปลี่ยนมุมมองให้ดิฉันฟังว่าเรากำลังก้าวออกจากยุค R&D (Research & Develop) และเข้าสู่ยุค C &D (Connect & Develop) เทคโนโลยีแห่งยุคดิจิตัลมีอยู่มากมายในตลาดโลกและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเลือกเทคโนโลยีที่คนอื่นบอกว่าดีอาจไม่ใช่คำตอบในการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มความสำเร็จทางธุรกิจของคุณ สิ่งสำคัญคือการเอาตัวเราไปเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีที่คิดว่าใช่ ให้เวลาช่วงต้นกับการทดลองทดสอบมัน เปิดใจลองทำและสังเกตผลลัพธ์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้เชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจและคนของคุณจริงๆ พร้อมสร้างกระบวนการภายในเพื่อเตรียมความพร้อมให้คนปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีพัฒนาเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้นคนต้องพร้อมรับมือก้าวไปกับมัน และนี่คือประเด็นที่สำคัญที่ทำให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุดจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างความสำเร็จทางธุรกิจยุคดิจิตัลที่เรียกว่า Digital Transformation

 

ฟังเช่นนี้แล้วดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงสู่โลกอนาคตคงไม่มีสูตรสำเร็จ เริ่มต้นจากผู้นำมีความตื่นรู้เห็นความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลงว่าต้องเปลี่ยนก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว แต่สิ่งที่จะส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จอย่างแท้จริง คือการสร้างความพร้อมของทีมที่ไม่ใช่เป็นเพียงทีมที่พร้อมรอรับการเปลี่ยนแปลง (Managing Change) แต่เป็นทีมที่พร้อมจะนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Leading Change) พร้อมแสวงหาโอกาสที่จะเปลี่ยนในทุกๆ วันทำงานเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น

 

หลังจากจากโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงผ่านไป 3 เดือน ตัวแทน Change Agent ท่านหนึ่งได้เปิดใจในห้องว่า “ผ่านไป 3 เดือนผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าจะต้องเปลี่ยนอย่างไร ผมรู้แค่ว่าพวกเราอยากไปถึงดวงดาว ซึ่งถ้าวันนี้เราไม่ทำอะไรเลยหรือยังทำเหมือนเดิมเราก็คงนั่งอยู่ที่เดิม แต่ถ้าเราลองทำอะไรสักอย่างที่ไม่เหมือนเดิมเราคงเริ่มลอยออกมาจากเก้าอี้ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะลอยไปถึงดวงดาวเอง”…มาถึงตรงนี้ทีมผู้บริหารที่นั่งอยู่หลังห้องเริ่มอมยิ้มเพราะ 3 เดือนที่ผ่านมาเราได้พาพวกเค้าออกจากความรู้สึกที่ว่า “ต้องเปลี่ยน” (have to) มาเป็น “อยากเปลี่ยน” (want to) ได้สำเร็จ และนี่คือการเตรียมความพร้อมของผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ผู้นำแห่งอนาคตเข้าสู่ยุคดิจิตัล ยุคแห่งนวัตกรรมยุคที่มีแต่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่รู้ว่าคืออะไรรออยู่ข้างหน้า

Ready to start your Leadership Journey?