ดิฉันเคยตั้งเป้าให้กับตัวเองว่า จะต้องเกษียณตอนอายุ 40 ปีให้ได้ จากนั้นเป้าหมายก็ค่อยๆ ขยับมาเป็น 45 ปี และดิฉันเพิ่งเลี้ยงฉลองวันเกิดครบ 45 ปีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและพบว่าตัวเองยังคงทำงานหัวฟูอยู่เหมือนเดิม  ในช่วงเดือนเกิด ต้องถือว่าเป็นช่วงดี ๆ ที่ดิฉันได้มีโอกาสเจอเพื่อนรุ่นพี่ผู้บริหารที่เคยร่วมงานกัน ซึ่งหลายคนตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในวัยเกษียณ

     หนึ่งในนั้นคือหัวหน้าเก่า ซึ่งเป็นผู้บริหารชาวต่างชาติที่เกษียณมาแล้ว 10 ปี จากตำแหน่ง CEO ต้องบอกว่าช่วงที่ท่านบริหารบริษัทในยุคนั้น ทำผลประกอบการแบบ Double Digit Growth ต่อเนื่องมากว่า 20 ปี เมื่อบริษัทเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่านจึงถือโอกาส Early Retire ซึ่งสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างจากผู้บริหารระดับสูงที่ฉันรู้จัก นั่นคือ แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว ทั้งแผนเที่ยวทั่วโลก เพลิดเพลินกับชีวิตในสนามกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อน ปลูกบ้านใหม่ต้อนรับวัยหลังเกษียณ เลี้ยงหลาน เป็นวิทยากรอิสระ ไปจนถึงนั่งเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆ ทำสัญญาปีต่อปี

      แต่เมื่อเทรนด์สุขภาพเปลี่ยนไป วันนี้คนทั่วโลกจะมีชีวิตยืนยาวขึ้น จากอายุเฉลี่ยคนไทยอยู่ที่ 76 ปี จะกลายเป็น 85 ปีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ยิ่งกว่านั้นผู้บริหารที่อายุ 60 ในวันนี้ก็ยังดูแข็งแรงตามมาตรฐานวิทยาการทางการแพทย์และสุขภาพที่ดีขึ้น แม้ท่านเหล่านี้จะไม่จำเป็นต้องทำงานต่อเพื่อเลี้ยงชีพ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงจริง คำถามที่อยู่ในใจจึงเกิดขึ้นว่า “แล้วฉันจะทำอะไรต่อในช่วงชีวิต 60 – 90 ปีที่เหลือหลังจากนี้?” 

     แน่นอนที่สุดเวลาตั้ง 30 ปีที่เหลือนี้คงไม่ใช้การ Count Down ของรุ่นใหญ่วัย Retire อีกต่อไป ในทางตรงข้างกลับเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะศึกษาเทรนด์โลกอนาคตแล้วหาหนทางนำประสบการณ์แบบสุกงอมมา Reborn เพื่อไปต่ออีก 30 ปีข้างหน้า  ในแต่ละปีจะมี CEO กว่า 100 คน เกษียณอายุงานจากบริษัทชั้นนำ S&P 1000 ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า แม้องค์กรชั้นนำระดับโลกจะมีการเตรียมแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง CEOs (Succession Plan) อย่างดี แต่สิ่งที่กลับถูกมองข้ามไปคือการเตรียม CEO คนปัจจุบันในเรื่องสายอาชีพหลังเกษียณ และกลายเป็นหน้าที่ของพวกเขาเองที่ต้องหาเอาเองว่าจะไปทำอะไรต่อ

     ปัจจุบันนี้ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ไปจนถึงการเกิดธุรกิจให้คำปรึกษาใหม่ๆ ที่มีกระบวนการเข้าไปช่วยให้รุ่นใหญ่วัยก่อนเกษียณในองค์กรเตรียมตัว Reborn ก่อนวันเกษียณจะมาถึงจริง ซึ่งพบว่ามีผู้บริหารจำนวนไม่น้อยสามารถนำประสบการณ์ตนเองบวกกับความเข้าใจโลกแห่งอนาคต เริ่มต้นธุรกิจใหม่ในวัย 60 ปีเป็นจำนวนมาก

     เมื่อกลับมาถึงบ้านเรา เชื่อว่ามีคนวัยใกล้เกษียณเป็นจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่สามารถใช้ชีวิตชิวๆ หลังเกษียณได้ ในทางตรงข้ามยังต้องการแหล่งรายได้เพื่อหาเลี้ยงชีพต่อไปอีก 30 ปี  แต่จะทำอะไรต่อล่ะ จึงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจ

     ถึงเวลาแล้วที่ดิฉันเองก็ต้องเริ่มเปลี่ยน Mindset ตัวเองจากการ Countdown รอวันเกษียณ ที่หวังจะเกษียณตอนอายุ 45 บ้าง 50 บ้าง 55 บ้าง เพราะเบื่อกับความเครียดจากงานประจำ

     มันจะเป็นอย่างไร หากเราคิดว่าต่อจากนี้ไปฉันจะทำงานจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต (แม้ตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่างานนั้นคืออะไร มีอยู่จริงหรือไม่) แต่ดิฉันเชื่อว่า Mindset แห่งการ Reborn นี้อย่างน้อยจะช่วยให้ดิฉันตื่นมาด้วยความกระชุ่มกระชวย  เห็นคุณค่าในตัวเองและคนรอบข้าง และเห็นโอกาสมากมายที่รออยู่ข้างหน้า