ได้เวลาเล่นการเมืองในที่ทำงาน (Political Savvy)

ปัญหาผู้บริหาร: ลูกทีมไม่ถูกกัน แบ่งออกเป็นกลุ่มเด็กเก่าและกลุ่มเด็กใหม่ ชอบแอบไปนินทากันเอง คุยกันได้เฉพาะเรื่องงาน บรรยากาศการทำงานเริ่มแย่เข้าไปทุกที  

ปัญหาทีมงาน: ผู้บริหารไม่ถูกกัน เนื่องจากเป็นบริษัทที่ปกครองโดยเครือญาติ บางครั้งเมื่อต้องทำงานให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ เวลาประสานงานกันก็ลำบาก เกี่ยงความรับผิดชอบกัน พนักงานอยู่ตรงกลางทำตัวไม่ถูก 

ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ทุกระดับในองค์กร และในโลกนี้คงไม่มีองค์กรในฝันที่ไร้ซึ่งความขัดแย้ง

เมื่อความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เราต้องเผชิญในทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งอาจจะเริ่มจากความเห็นต่างในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จนลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนในองค์กร (ไม่เพียงเฉพาะแต่ผู้นำองค์กร) จำเป็นต้องเข้าใจทักษะและวิธีการที่จะทำให้องค์กรดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด เช่นทักษะการวิเคราะห์ความขัดแย้ง ทักษะการสร้างความร่วมมือ ไปจนถึงทักษะการเข้าใจการเมืองในที่ทำงาน

การเมืองในที่ทำงาน (Political Savvy)

เมื่อพูดถึงคำว่า การเมืองในที่ทำงาน (Political Savvy) ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเล่นเกมหรือการแสวงหาผลประโยชน์ ในทางตรงข้ามเป็นการเพิ่มและใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ของทีมร่วมกัน

การวิจัยโดย Center for Creative Leadership พบว่าคนที่เข้าใจการเมืองในที่ทำงานมีโอกาสเติบโตในสายอาชีพที่ดีกว่า ได้เลื่อนตำแหน่งมากกว่า และมีโอกาสน้อยที่จะตกงาน ในทางตรงข้าม คนที่สับสนกับความเป็นจริงทางการเมือง หลีกเลี่ยงหรือเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้จะทำขาดให้โอกาสในการสร้างสัมพันธ์ สร้างประโยชน์เพื่อเป้าหมายร่วมกัน

หัวข้อนี้ถูกถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะหลายคนมักมองคำว่าการเมืองในเชิงลบ ตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมและไม่อยากมีส่วนร่วมในพฤติกรรมทางการเมืองถึงแม้จะรู้ว่าทำเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าก็ตาม ​ แม้ว่าคำว่าทักษะทางการเมืองในที่ทำงานจะถูกรับรู้ในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก แต่วันนี้ต้องเปิดใจยอมรับว่าการเมืองในที่ทำงานเป็นเรื่องสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งปกติของชีวิตการทำงาน การเมืองไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี จริงๆ แล้วทักษะทางการเมืองเป็นสิ่งจำเป็น และเมื่อใช้อย่างเหมาะสม ทุกคนก็สามารถใช้ทักษะทางการเมืองได้เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับตนเองและผู้อื่น


บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ทำการศึกษาผู้นำในองค์กรไทย พบ 4 พฤติกรรมที่จำเป็นในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเมืองภายในที่ทำงาน

  1. เข้าใจความแตกต่างและความหลากหลายของแต่ละคน เพื่อสร้างเครือข่ายได้กับทุกฝ่ายในองค์กร
  2. ในกรณีเห็นต่าง สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยความต้องการที่ขัดกันได้ด้วยตัวเอง ไม่ปล่อยจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง
  3. วิเคราะห์ความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างชัดเจน สามารถบริหารรอบด้านแบบ 360 องศา ทั้งบน ล่าง ข้าง เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ในทุกภารกิจเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
  4. กระทำด้วยความจริงใจในการนำพาทีมให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นได้เป็นอย่างดี

หากทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจและมีทักษะบริหารการเมืองในที่ทำงานก็จะสามารถประสบความสำเร็จในเปลี่ยนความขัดแย้งเป็นความร่วมมือ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของทีม และเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพของตนเอง

Ready to start your Leadership Journey?