บริหารความ "ย้อนแย้ง"
“อยากไปแต่ก็กลัว” “อยาก empathy แต่ก็ต้องเอาผลลัพธ์” เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านอาการ “ย้อนแย้ง” คิดย้อนไปแย้งมาในตัวเอง ในภาษาอังกฤษเรียกว่า paradox
ความย้อนแย้งจนก่อให้เกิดความตึงเครียดเหล่านี้เกิดขึ้นในทุกแง่มุมของชีวิตและองค์กร องค์กรทุกวันนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ผันผวนและเปราะบางมาก ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ส่งผลต่อความตึงเครียดที่กำลังดำเนินอยู่และดูเหมือนล้นหลามจนยากที่จะเข้าใจ อีกทั้งการจัดการทางเลือกต่าง ๆ ทำได้ยากกว่าเมื่อก่อนมาก อาทิ
ในแง่ของผู้นำองค์กร – ต้องควบคุมแต่ก็ต้อง empower
ในแง่การทำงานเป็นทีม – ต้องให้ได้ทั้งผลลัพธ์แต่ก็ต้องได้ความสัมพันธ์ที่ดี
ในแง่กลยุทธ์ – ต้องแข่งขันแต่ก็ต้องจับมือกับคู่แข่ง
ในแง่โครงสร้างองค์กร – ต้องรวมศูนย์แต่ก็ต้องกระจายอำนาจ
ในแง่เป้าหมาย – ต้องบรรลุเป้าหมายระยะสั้นแต่ต้องเน้นความยั่งยืน
ทางเลือกที่ “ย้อนแย้ง” เหล่านี้ สร้างความตึงเครียดให้ผู้เกี่ยวข้องในองค์กร เพราะมันไม่ใช่การตัดสินใจว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่ง หรือเลือกวิธีแก้ปัญหาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพียงทางเดียวเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ
Center for Creative Leadership ทำการศึกษาเกี่ยวกับการบริหารความย้อนแย้ง ซึ่งผลการวิจัยพบว่า องค์กร ผู้นำ ทีม และบุคลากรที่สามารถบริหารความย้อนแย้งที่เกิดในทุกเมื่อเชื่อวันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ทางธุรกิจที่สำคัญในโลกอนาคต
เพราะ “ย้อนแย้ง” ไม่ใช่ “ขัดแย้ง”
สองสิ่งที่อยู่บนคนละขั้ว บางส่วนสามารถเสริมกันได้ และหากองค์กรหาจุดที่มันเชื่อมโยงและส่งเสริมกันได้มากกว่าเห็นเฉพาะจุดที่มันขัดแย้งกัน สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งนวัตกรรมในองค์กร กล่าวคือสามารถเข้าใจได้ว่า แม้แต่ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ก็ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจ เช่น การหานวัตกรรมทางผลิตภัณฑ์จากการผสมผสานระหว่างปรัชญาตะวันออกและตะวันตก
ประโยชน์ของการบริหารความย้อนแย้งในองค์กร
- เปลี่ยนความตึงเครียดเป็นโอกาส
- แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างในถูกรับรู้ในเชิงคุณค่า
- เปลี่ยนวิธีการจัดการปัญหาที่พึ่งพาเพียงคนไม่กี่คน ให้เป็นกระบวนการของกลุ่มที่มีแนวคิดต่างกัน
- ปรับกรอบการมองปัญหาขององค์กรแทนการชี้นิ้วไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง ให้กลายเป็นส่วนเสริมและพึ่งพาอาศัยกันและกัน ซึ่งช่วยให้หลุดจากวงจรอุบาทว์มุ่งสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เคารพความจริงที่ว่าองค์กรและผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องทำงานกับสองขั้วที่ต่างกัน
หากองค์กรองค์กรละเลยความสามารถในการบริหารผลประโยชน์ที่แข่งขันกันอยู่ในใจ จะมีความเสี่ยงในการละสายตาจากปัญญาที่อยู่คู่กัน และจากคู่สองขั้วที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน