องค์กรแห่งความหวัง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันมีประชุมกับลูกค้าซึ่งเป็นทีมผู้บริหารองค์กรใหญ่ ที่เราเข้าไปเป็นที่ปรึกษาเรื่องการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรหลังควบรวมกิจการ

ประเด็นที่นั่งคุยกันในกลุ่มผู้บริหารคือ การสร้าง Sense of Urgency หรือความตระหนักเห็นความเร่งด่วนว่าต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเดี๋ยวนี้!

มีผู้บริหารบางท่านแนะนำให้ CEO ประกาศในงานประชุมบริษัทว่า หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรม บริษัทจะไปไม่รอด และทุกคนอาจต้องตกงาน

บางท่านแนะนำให้ใช้สถานการณ์โควิดเป็นตัวกระตุ้นให้เห็นถึงความยากลำบากเพื่อชี้ให้เห็นว่าทุกคนต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้

บางท่านแนะนำให้ไปเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงภายนอกมาพูด เพื่อจะได้รู้ว่าโลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว ในขณะที่เรายังล้าหลังอยู่ในกะลา ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอง

บางท่านแนะนำให้สร้างโปรเจคขึ้นมาหลาย ๆ โปรเจค เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

บางท่านแนะนำให้ผูกกับระบบประเมินผล ให้คุณให้โทษ ทั้งผ่านการให้โบนัส ปรับตำแหน่ง ขึ้นเงินเดือน เพื่อเร่งให้คนเห็นผลประโยชน์ระยะสั้นที่เกิดขึ้นกับตนเองก่อน

John Kotter กูรูด้านการเปลี่ยนแปลง พูดถึงเรื่องการสร้าง Sense of Urgency ว่า สามารถทำได้ 2 อย่าง ทั้งผ่านความกลัว (Fear) หรือผ่านความหวัง (Hope)

แม้ในหลายสถานการณ์ การใช้ความกลัวเข้าขู่ดูเหมือนได้ผลเร็ว แต่ในความเป็นจริง หากวันนี้ทุกอย่างยังปกติดี เราคงตัดสินใจซื้อยาสีฟันยี่ห้อหนึ่งและอยากจะใช้ไปนาน ๆ เพราะใช้แล้วฟันสวยแข็งแรง มากกว่าใช้เพราะกลัวฟันผุ

ระหว่างที่คณะผู้บริหารกำลังถกประเด็นนี้กันอย่างเมามันส์ ท่าน CEO ก็ได้แสดงความเห็นเป็นคนสุดท้ายว่า องค์กรอาจล่มสลายเพราะคนไม่เปลี่ยนแปลง แต่คนที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอาจไม่ได้ล่มสลายไปกับองค์กร เพราะพวกเขามีทางเลือกที่เดินออกไปจากที่นี่ ด้วยความกลัวนั่นกลัวนี่ กลัวไม่ได้โบนัส กลัวหัวหน้าประเมินไม่ดี กลัวถูกมองว่าเป็นคนไม่เก่ง กลัวบริษัทจะเลิกจ้าง กลัวบริษัทจะปิดกิจการ

ในทางตรงข้าม ผู้นำองค์กรต่างห่างที่มีหน้าที่ช่วยขจัดความกลัวเหล่านั้น สร้างความไว้ใจเพื่อพวกเขาจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมเพราะเห็นความหวังแห่งอนาคตร่วมกัน

บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ทำการศึกษาคุณลักษณะของผู้นำองค์กรที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง พบบทบาทที่สำคัญในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตดังนี้ (Empathic Communicator)
1. กำหนดเป้าหมายและสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
2. กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์
3. สร้างความสัมพันธ์และใช้ประโยชน์จากเครือข่ายภายในองค์กรเพื่อเป้าหมายร่วมกัน

Tags:
#Leadership Development
#Organization

Ready to start your Leadership Journey?