Say ‘No’ to ‘Multitasking’

Say ‘No’ to ‘Multitasking’

คุณผู้อ่านลองหยิบปากกาขึ้นมา แล้วเขียน 1, 2, 3, 4, 5, 6… เรื่อยไปจนถึง 20 เสร็จแล้วในบรรทัดล่าง เขียนประโยคว่า I Am Able to Multitask ลองจับเวลาดูว่าใช้เวลาเขียนสองอย่างนี้กี่วินาที

เสร็จแล้วลองใหม่ เขียนแบบเดิม แต่ให้ใช้วิธีสลับระหว่างบรรทัด คือ 1 แล้วเขียน I แล้วเขียน 2 แล้วเขียน A แล้วเขียน 3 แล้วเขียน M แล้วเขียน 4 แล้วเขียน A … ไปเรื่อยๆ จนตัวเลข 20 และตัวอักษรครบถึงตัว k จับเวลาเช่นกัน

ผมกล้ารับประกันว่าวิธีเขียนแบบที่สองใช้เวลานานกว่าวิธีแรก บางทีอาจนานกว่าเป็นเท่าตัวด้วยซ้ำ เพราะจริงๆประโยคที่ควรเขียนคือ I Am Not Able to Multitask สมองไม่สามารถมัลติทาสค์ได้

คอลัมน์วันนี้ขอเน้นข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับ ‘สมอง’ และความสามารถของมนุษย์ในการทำหลายๆเรื่องในเวลาเดียวกัน ซึ่งความจริงก็คือเรา multi-task ไม่ได้ จริงๆแล้วสมองของเราโฟกัสได้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แม้บางครั้งดูเหมือนกำลังทำหลายเรื่อง ประชุมไปด้วย เช็คเมล์ ตามหุ้น แชต ฯลฯ แต่สิ่งที่เราทำคือ task-switching ต่างหาก

แม้สมองอาจเก่งขึ้นบ้างในการ switch task ไปมา แต่ทุกครั้งที่เราเปลี่ยนโฟกัส มันต้องตั้งหลักใหม่ มีนักการสมองเคยคำนวณไว้ว่าทุกๆ ครั้งที่เราเปลี่ยนเรื่อง สมองใช้เวลาถึง 25 นาที ในการรวบรวมสมาธิ ดังนั้นการเปลี่ยนแม้เพียง 2 ครั้งในหนึ่งชั่วโมง จะเท่ากับว่าเราไม่ได้ใช้สมองอย่างเต็มที่เลยในการทำงานพวกนั้น ลองนั่งจับเวลาดูคนของคุณในออฟฟิศ (หรือในครอบครัว) ก็ได้ครับ พวกเขาเปลี่ยนเรื่องทำทุกกี่นาที อีเมล์เข้า แชตมา ยูทูปเด้ง เฟสบุ๊คเตือน ฯลฯ

บางครั้งเรา ‘ดูเหมือน’ ทำสองสามอย่างได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ขับรถไปด้วย พูดโทรศัพท์ไปด้วย หากลองสังเกตดู จะพบว่าเราใช้สมองได้กับแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ส่วนอีกเรื่องเราจะทำด้วยความเคยชิน (สมองส่วนที่ใช้คิดไม่ได้ทำงาน) แต่ถ้าต้องคิดทั้งสองเรื่ิอง เช่น การขับรถไปสถานที่ไม่คุ้นเคยจะเกิดสองกรณีคือ คุยโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง หรือ หลงทาง

แล้วเรามีแนวทางอะไรบ้าง ในโลกที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวายปัจจุบัน?

  • พยายามตระหนักว่าสมองเราไม่เก่งขนาดนั้น หากอยากใช้สมองให้มีประสิทธิภาพที่สุดจงรับรู้และยอมรับถึงข้อจำกัดนี้ อย่าคิดอะไรมากกว่าหนึ่งเรื่องในเวลาเดียวกัน อย่าตั้งคำถามทีละสองสามสี่ข้อ เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ โดยเฉพาะงานที่ความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ บอกคนรอบตัวว่า ‘ขอโทษค่ะ สมองดิฉันคิดได้ทีละเรื่อง’
  • การเปลี่ยนโฟกัสไปมามี cost หากเราคิดว่าปัจจุบันเรามีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ลองคิดว่าเราจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้อีกแค่ไหน ถ้าไม่ต้องเสีย 25 นาทีทุกครั้งที่เปลี่ยนเรื่องคิด
  • ข้อสุดท้ายเป็นรูปธรรมหน่อย ลองแบ่งกิจกรรมในแต่ละวันของคุณออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือ A) งานที่ต้องใช้ความคิด/ต้องการความถูกต้องแม่นยำ หรือ เกี่ยวพันกับอารมณ์ความรู้สึก เช่น ดูแผนงานทางอีเมล์ ประชุมงบประมาณ อบรมเรื่องใหม่ๆ การดูหุ้น เป็นต้น ส่วนที่เหลือคือ B) งานที่ทำได้โดยไม่ต้องใช้สมองและไม่เกี่ยวกับอารมณ์ เช่น การอาบน้ำ การชงกาแฟ ฟังเพลง (สำหรับบางคน) หรือ การสั่งข้าวกลางวัน

เสร็จแล้วตั้งกติกาว่า ห้ามทำ A พร้อมๆกันมากกว่าหนึ่งเรื่อง ส่วนงานในหมวด B พยายามใช้ดิจิตัลช่วยทำให้เยอะหน่อย งานประเภทหลังนี่ล่ะควรมอบหมายให้ A.I. ทำ อย่าเอาสิ่งที่ต้องการสมองคุณไปให้สมองกลทำ หลายคนคงบอกว่า วุ้ย จะทำได้ไง ยุ่งยาก เป็นไปไม่ได้หรอก ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ

มีผลวิจัยที่อังกฤษพบว่า การเช็คอีเมลตลอดเวลาระหว่างการทำงาน ทำให้ IQ ของเราลดลงถึง 10-15 คะแนนเลยนะครับ

Ready to start your Leadership Journey?