ปริศนาธรรม มันดาลา (Mandala)

ปริศนาธรรม มันดาลา (Mandala)

ปี 2564 กำลังจะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่วันช้างหน้า ต้องยอมรับว่าปีนี้หนักกว่าปีที่ผ่านๆ มามาก​ !

เราทุกคนวนเวียนอยู่กับโควิดมานาน วัคซีนคือแสงสว่างขนาดใหญ่ที่ปลายอุโมงมืด เมื่อทุกอย่างทำท่าว่าจะดีขึ้น ก็มีเหตุให้เกิดเรื่องปวดหัวขึ้นมาใหม่ อย่างเชื้อกลายพันธุ์ โอมิครอน

วัฏจักรที่หมุนวนจากดีเป็นร้ายและจากร้ายกลายเป็นดี ดูเหมือนจะเวียนไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ทำให้หวนนึกถึงสารคดีตอนหนึ่งที่มีโอกาสได้ดูมาสักระยะหนึ่งแล้ว

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนาของพระสงฆ์ทิเบต นิกายมหายาน ซึ่งมาสักการะและปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล (สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า)

วิธีการปฏิบัติของท่านน่าสนใจ พระสงฆ์แต่ละรูปจะภาวนาไปพร้อมๆ กับการใช้ทรายหลากหลายสีวาดรูปภาพที่สวยงาม ด้วยการใช้นิ้วและอุ้งมือหยิบและโปรยทรายทีละเล็กละน้อย อย่างค่อยๆ บรรจง เรียกไว้ว่าเป็นศิลปะทำมือ (Hand-made) ชั้นสูงเลยทีเดียว มีชื่อว่ามันดาลา” (Mandala)

การวาดมันดาลาบางภาพอาจมีความละเอียดสูงมากเทียบเท่างานศิลปะขั้นเทพ บางงานใช้เวลานานหลายสัปดาห์กว่าจะเสร็จ

เมื่อเสร็จแล้ว ทำอะไรต่อ ?

พระสงฆ์ที่วาดรูปนั้น ก็จะค่อยๆ ลบรูปที่วาดขึ้นมาด้วยความพิถีพิถันนั้น ด้วยแปรงที่ทำหน้าที่กวาดทรายทั้งหมดมารวมกัน จนไม่เหลือซากของความสวยงามไว้ให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

ถามว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร ?

คำตอบไม่ยาก แต่ลึกซึ้งมาก ท่านบอกว่านี่แหละคือสัจจธรรม ทุกอย่างล้วนเป็นของชั่วคราว ไม่ว่าจะสูงส่ง สวยงาม หรือเลอค่าเพียงใด ไม่นานก็จะสลายไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้

ไม่ว่าความสุข ความทุกข์ ดีใจ เสียใจ หัวเราะหรือร้องไห้ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่นานก็หายไป

ได้ดูสารคดีเรื่องนี้แล้ว ช่วยให้ทำใจได้ว่า วิกฤตโควิตที่กำลังเกิดขึ้นหรือจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้า ก็เป็นของชั่วคราว มาแล้วก็ต้องจากไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ถาวร

เหมือนดังสัจจธรรมแห่งภาพมันดาลา

อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี

Tags:
#Leadership Hacks

Ready to start your Leadership Journey?