พลังแห่งการฟัง

ผมเชื่อว่านอกจากการเป็นนักพูดที่ดีแล้ว การเป็นนักฟังที่ดีด้วย จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น เพราะการสื่อสารสองทางเป็นหัวใจของมนุษย์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ผมเคยรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สมัยที่ ดร.จิรายุ อิศรางกูรฯ เป็นผู้อำนวยการ ท่านสอนผมว่า “คนมี 2 ตา 2 หู และ 1 ปาก” ดังนั้นธรรมชาติก็อยากให้เราดูและฟัง มากกว่าพูดอยู่แล้ว นอกจากนั้นท่านยังบอกด้วยว่า “ปากกับหูอยู่ห่างกัน มีสมองคั่นอยู่ตรงกลาง” ดังนั้นเมื่อได้ยินได้ฟังอะไร ให้เวลามันเดินทางผ่านสมองสักนิด ก่อนพูดตอบโต้อะไรออกไป

ผมจำได้ขึ้นใจและพยายามฝึกฝนการเป็นผู้ฟังที่ดีเรื่อยมา แม้จะได้บ้างลืมบ้าง แต่ก็ตั้งใจทำทุกๆ โอกาสที่มี

การฟัง เป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนให้เชี่ยวชาญได้ ผมสังเกตผู้บริหารหลายคน ไม่ค่อยมีทักษะในการฟัง เอาแต่ พูด พูด และพูดเพียงอย่างเดียว

อยากฟังให้ดี ต้องฟังให้ครบทั้ง 5 องค์ประกอบดังต่อไปนี้

1. ฟังด้วยหู – โบราณบอกให้เงี่ยหูฟัง หมายถึง ตั้งใจฟังและฟังอย่างตั้งใจ

2. ฟังด้วยตา – สบสายตาคู่สนทนาและใช้ตาดูอากัปกริยาของอีกฝ่ายว่าเขารู้สึกอย่างไร ในระหว่างพูดคุยกับเรา

3. ฟังด้วยตัว – ระหว่างฟัง ให้พยักหน้าเป็นระยะๆ โน้มตัวไปข้างหน้านิดหน่อย นั่งสักครึ่งก้น แค่นี้ ก็แสดงทีท่าว่า “ฉันสนใจฟังเธออยู่” ได้ดีขึ้นแล้ว

4. ฟังด้วยปาก – ตอบโต้บ้างในระหว่างการสนทนา แค่คำพูดง่ายๆ อย่างเช่น เอ๊ะ อ๋อ เหรอ เออจริง ก็ช่วยให้การสนทนามีรสชาติมากขึ้นแล้ว

5. ฟังด้วยใจ – ฟังโดยไม่ตัดสิน ใช้ใจฟัง พยายามเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย ฟังให้ได้ยินสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมา

ข้อ 1-4 ไม่น่ายาก ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็จะทำได้

ส่วนข้อ 5 เป็นผลพลอยได้ของการทำข้อ 1-4 ให้ดี

อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี