เปรียบเทียบการเติบโตของคนทำงานในองค์กรเป็นเสมือนการไต่บันได เราสามารถแบ่งการเติบโตออกได้เป็น 4 ระดับ

 

ระดับที่ 1 : Ladder Climber – เมื่อเริ่มต้นทำงาน ทุกคนต่างโฟกัสที่จะสร้างการเติบโตให้ตนเอง โดยมุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายและความคาดหวังที่ถูกตั้งไว้ เพื่อไต่บันไดแห่งความสำเร็จ

 

ระดับที่ 2 : Ladder Holder – เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว หน้าที่ต่อไปคือการสนับสนุนให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จด้วย เปรียบเสมือนการช่วยจับบันไดให้มั่นคง เพื่อคนอื่นจะได้ปีนบันไดไปสู่ความสำเร็จของเขา

 

ระดับที่ 3 : Ladder Expander – บทบาทระดับถัดไปคือ การต่อยอดความสำเร็จทั้งของตนเองและผู้อื่นให้สูงขึ้น เปรียบเสมือนการต่อความสูงของบันไดให้ไปได้ไกลขึ้น

 

ระดับที่ 4 : Ladder Builder – หัวหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง คือหัวหน้าที่สร้างผู้นำรุ่นถัดไปให้กับองค์กร เปรียบเสมือนการเป็นผู้สร้างบันไดให้ผู้อื่นได้ใช้งานเพื่อเติบโตต่อไป

 

หน้าที่ 4 ระดับนี้ หากทุกคนถือปฏิบัติ ความสำเร็จที่ยั่งยืนก็จะบังเกิดขึ้น

 

ผมอ่านหนังสือของ John C. Maxwell ชื่อ Leadershift ซึ่งผู้เขียนบอกว่าทุกวันนี้ โลกเปลี่ยนไป ผู้นำก็ต้องเปลี่ยนแปลง จากนั้นนำเสนอ สิ่งที่ผู้นำต้องเปลี่ยน 11 ประการ แต่วันนี้ยกมา 6 เรื่อง ที่เห็นว่าพอจะเข้ากับบริบทของบ้านเรา

 

1. Soloist —> Conductor: จากศิลปินเดี่ยว ที่เก่งและมีความสามารถ ลูกน้องต้องพึงพิง ไปเป็นเสมือนวาทยากรในวงออเคสตร้า ที่ทำหน้าที่คอยกำกับการเล่นของทีม แทน

 

2. Goal —> Growth: จากการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นเรื่องสำคัญ ต่อไป การพัฒนาทีมงานและการเติบโตอย่างยั่งยื่น สำคัญกว่า

 

3. Pleasing People —> Challenging People: จากเดิมผู้นำหลายคน กังวลว่าคนอื่นจะไม่ชอบ จึงไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่รุนแรงหรือเด็ดขาด โดยเฉพาะหากมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ แต่จากนี้ไป ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจในสิ่งที่อาจทำให้ตนเองไม่เป็นที่ชื่นชอบ และต้องท้าทายความสามารถของทีมงานให้เก่งขึ้นและทำได้มากขึ้น (Raising the bar)

 

4. Maintaining —> Creating: จากเดิมผู้นำทำหน้าที่บริหารจัดการให้สิ่งที่ทำอยู่ ดำเนินต่อไปได้ตามแนวทางที่กำหนดไว้ ต่อไป ผู้นำต้องเป็นนักคิดสร้างสรรและนักผลักดันการเปลี่ยนแปลง

 

5. Ladder Climber —> Ladder Builder: จากเดิมผู้นำต้องผลักดันตัวเองให้เติบโตก้าวหน้า จากนี้ไป ผู้นำต้องทำหน้าที่สร้างและสนับสนุนให้ผู้อื่นก้าวหน้า

 

6. Team Uniformity —> Team Diversity: เดิม การสร้างเอกภาพของทีม เป็นเรื่องสำคัญในการบริหารจัดการ แต่จากนี้ ผู้นำต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้สร้างและใช้ความแตกต่างหลากหลายของทีมให้มีประสิทธิภาพ