ทำไมวิธีการเป็นผู้นำแบบเดิมไม่เวิร์กอีกต่อไป?

ผู้นำองค์กรเป็นจำนวนมากเติบโตขึ้นในระบบที่ให้คุณค่ากับลำดับชั้น อำนาจ และประสบการณ์ ความสำเร็จเกิดมาจากการทำงานหนัก ความภักดีต่อองค์กร และค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไป แล้ววันหนึ่งคุณจะไปสู่จุดสูงสุดขององค์กร

 

อย่างไรก็ตาม ตัวขับเคลื่อนสำคัญของโลกอาทิ AI, เทคโนโลยี, ความยั่งยืน, สงครามแย่งชิงคนเก่ง, productivity และการทำงานทางไกลกำลังเปลี่ยนอุตสาหกรรมต่างๆ  รูปแบบการเป็นผู้นำแบบเดิมๆ ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้อีกต่อไป

 

หลายองค์กรเกิดความคาดหวังใหม่ทั้งความสามารถในการคิดใหม่ ความสามารถในการปรับตัว ความเข้าใจการเปลี่ยนไปของโลก และความสามารถในการบริหารคนได้อย่างลึกซึ้ง แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือความคาดหวังใหม่นี้มีต่อคนที่เติบโตขึ้นมาแบบโมเดลเดิม!

 

อนาคตของภาวะผู้นำในประเทศไทย: การทำลายกรอบความคิดเดิม

งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับ อนาคตของภาวะผู้นำในประเทศไทยปี 2035 ได้เน้นย้ำแนวโน้มสำคัญที่กำลังบีบบังคับให้ผู้นำไทยต้องเปลี่ยนแนวทางการคิดและบริหาร:

 

  1. จากระบบรอคำสั่งสู่การกระจายอำนาจ

ระบบเก่าให้ค่ากับการลงมือทำได้สำเร็จตามคำสั่ง ขณะที่ความท้าทายใหม่ต้องให้ผู้นำคิดสิ่งใหม่แทนจะรอคำสั่ง ต้องการให้ผู้นำสร้างการความร่วมมือ การสร้างแรงบันดาลใจ และการตัดสินใจแบบกระจายอำนาจ ผู้นำที่มุ่งเสริมพลังให้ทีมแทนการสั่งการจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ

 

  1. จากอำนาจสู่ความคล่องตัว

ภาวะผู้นำแบบดั้งเดิมเน้นความมั่นคงและการวางแผนระยะยาว วันนี้ ผู้นำต้องสามารถคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลง ปรับตัวได้เร็ว แล   ยอมรับความไม่แน่นอนเป็นเรื่องปกติ

 

  1. จากทักษะสู่กรอบความคิดรอบด้าน

ทักษะทางเทคนิคสามารถถูกแทนที่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ แต่ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการปรับตัว และความสามารถในการเรียนรู้และเลิกเรียนรู้สิ่งที่ล้าสมัยเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้นำแตกต่าง  

 

  1. จากการมีผู้นำเก่งสู่การมีทีมที่แกร่ง

ภาวะผู้นำไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จส่วนตัวอีกต่อไป แต่เป็นการสร้างทีมที่สามารถสร้างสรรค์ ปรับตัว และร่วมกันขับเคลื่อนความสำเร็จไปข้างหน้า

 

แรงงานไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมาก คนรุ่นใหม่กำลังปฏิเสธเส้นทางอาชีพแบบดั้งเดิม ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นมากกว่าความมั่นคง และให้คุณค่ากับการทำงานที่มีความหมายมากกว่าการได้รับค่าตอบแทนสูงเแต่กลับไม่สามารถบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวได้ ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของประชากรและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มความซับซ้อนให้กับภาวะผู้นำ

 

ผู้นำแห่งอนาคตในประเทศไทยต้องมีวิสัยทัศน์ระดับโลกกล่าวคือ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ตลาดเกิดใหม่ และผลกระทบของแนวโน้มโลกต่อธุรกิจไทย อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับมนุษย์ ด้วยการสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยทางจิตใจ บูรณาการเรื่อง Wellness เข้าไปในวัฒนธรรมองค์กร และสามารถตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าเป็นการใช้ AI, การวิเคราะห์ข้อมูล และเครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ

 

การนิยามความสำเร็จใหม่สำหรับคนรุ่นถัดไป

 

ที่ผ่านมาเราเชื่อว่าความสำเร็จคือความก้าวหน้าในสายอาชีพตาม career path  แต่ความสำเร็จในอนาคตคือการปรับตัวตลอดเวลา ผู้นำไทยต้องเปลี่ยนแนวคิด ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น การเรียนรู้ และความหมายของการทำงานมากกว่าตำแหน่งหรืออายุงาน

 

โลกเปลี่ยนไปแล้ว คำถามคือ ผู้นำของเราจะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่?

Ready to start your Leadership Journey?