ผู้นำในวันที่หมดแรง

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลที่ไม่เหลือแรงพอทำงานให้ดี  

ดิฉันเองก็เป็นแฟนคลับตัวยงของจาซินดาตั้งแต่วันแรกที่เธอนั่งเก้าอี้อันทรงเกียรตินี้  แม้วันที่เธอประกาศลงจากเก้าอี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอก็ไม่ทำให้แฟนคลับอย่างดิฉันผิดหวังแม้แต่น้อย โดยเฉพาะประโยคเด็ด 2 ประโยคที่โดนใจดิฉันมาก 

  1. การเป็นผู้นำประเทศเป็นงานที่ได้รับสิทธิพิเศษที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะได้รับ แต่ก็เป็นงานที่ท้าทายที่สุดเช่นกัน คุณไม่สามารถและไม่ควรทำงานนี้จนกว่าคุณจะมีพลังเต็มที่ และต้องมีพลังสำรองไว้อีกเล็กน้อย

อันที่จริงแล้วเหตุผลที่จาซินดาได้กล่าวถึงนี้ น่าจะเป็นตัวแทนของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกการทำงานของพวกเราในขณะนี้เช่นกัน ทุกวันนี้พวกเราต่างทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความท้าทาย ไม่แน่นอน หลายครั้งสถานการณ์เหลี้ทำให้พวกเราก็รู้สึก burnout  

สำหรับจาซินดาเอง เมื่อเธอรู้สึก burnout หรือหมดแรง เธอจึงตัดสินใจหยุด ซึ่งการตัดสินในครั้งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเธอเองและสังคมในเวลาเดียวกัน ในทางตรงข้าม โลกที่พวกเรานั่งทำงานอยู่ พบว่ามีคน burnout จำนวนมากแต่พวกเขาก็ยังคงนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

มีงานวิจัยเป็นจำนวนมากที่ออกมาเผยว่าคนที่ burnout เป็นจำนวนมาก ยังคงนั่งทำงานอยู่ทั้งที่มีพลังเหลือเพียงครึ่งเดียว และมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังคงนั่งทำงานอยู่ทั้งที่มีพลังเหลือเพียงไม่ถึง 10%

ควรหรือไม่ที่องค์กรกำลังขับเคลื่อนไปด้วยคนที่มีพลังเหลือน้อยเต็มที ซึ่งนี่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งองค์กรและพนักงานเองเลย วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่องค์กรต้องหันมาสร้างความสมดุลระหว่าง “ธุรกิจ” และ “คุณภาพชีวิต” ของพนักงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

  1. ดิฉันลาออก เพราะบทบาทอันทรงเกียรตินี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่ต้องรู้ว่าเมื่อใดที่คุณคือคนที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำ และเมื่อใดที่คุณไม่ใช่

ที่ผ่านมา เรามักเห็นคุณลักษณะเด่นของผู้นำที่ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายคน อาทิ ความมุ่งมั่น เข้มแข็ง เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ไม่เลิกล้มอะไรง่าย ๆ อย่างไรก็ดี สิ่งที่จาซินดาแสดงให้เห็นคือ ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงความซื่อสัตย์ต่อผู้คน ความซื่อสัตย์ถือเป็นรากฐานสำคัญของผู้นำ ต่อให้คุณจะเก่งขนาดไหนมาก็ตาม ถ้าขาดสิ่งนี้มันคือ “จุดตาย” ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเพียงแค่อย่าฝืน และรู้ว่าเมื่อไรควรหยุด การรู้ว่าต้องหยุดเมื่อไหร่ไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอเสมอไป  

วันนี้หากคุณกำลังเริ่มหมดพลัง ขอให้หันมาเริ่มซื่อสัตย์ต่อร่างกายและจิตใจของตัวเอง

  1. นั่งตกผลึกกับตัวเองว่าสิ่งไหนเราทำได้ดี สิ่งไหนไม่สามารถทำได้และควรหยุด
  2. อยู่กับปัจจุบัน ทำที่ละเรื่อง ทำด้วยหัวใจ
  3. เลิกใช้ชีวิตแบบทำตาม list ที่มันไม่ make sense
  4. หากิจกรรมและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ นอกจากงานที่ผสานจิตใจกับร่างกาย
  5. ที่สำคัญที่สุด มั่นตรวจสอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของตัวเอง

Ready to start your Leadership Journey?