เปิดปีกระต่ายทอง ด้วยการเข้าไปทำงานที่ปรึกษาให้กับทีมผู้บริหารระดับสูงขององค์กรหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อเรื่องเน้นผลลัพธ์ ไม่แปลกใจที่องค์กรแห่งนี้มีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของประเทศในเรื่องการสร้างความสำเร็จผ่านคนเก่ง  

โจทย์ของโครงการนี้ คือ อยากเปิดปีมาด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริหารระดับสูงเพื่อสร้างความเป็นทีมที่แข็งแกร่ง

ผู้บริหารส่วนใหญ่มาถึงห้องนัดหมายตั้งแต่ 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเริ่ม พอมาถึงก็ต่างคนต่างหาที่นั่ง หยิบแล็ปท็อปออกมากาง ก้มหน้าก้มตาทำงาน บ้างก็เช็คอีเมล บ้างก็หยิบโทรศัพท์ออกมาคุยงาน

พอใกล้ถึงเวลาเริ่ม มีผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่งเดินตรงไปที่หนุ่มน้อยผู้ประสานงาน พร้อมยิงคำถามรัว ๆ ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร

• ทำไมมาจัดช่วงนี้ มันยุ่งมาก รู้ไหม!
• จัดแบบออนไลน์ไม่ได้เหรอ ทำไมต้องมาเจอตัว!
• ต้องอยู่ 3 ชั่วโมงเลยเหรอ ทำให้เสร็จในชั่วโมงเดียวได้ไหม พี่มีประชุมต่อ!

หนุ่มน้อยผู้ประสานงานก็เลยหน้าซีดเป็นไก่ต้ม หวยจึงมาออกที่ดิฉันเมื่อผู้ประสานงานหันมาถามว่า “อาจารย์ว่าอย่างไรครับ?”

ดิฉันจึงสัญญากับผู้บริหารทุกท่านว่า ถ้าเสร็จเร็วเราจะเลิกเลย ถ้าเสร็จได้ภายใน 1 ชั่วโมง เราก็เลิกตอนนั้น  ทั้งนี้ขึ้นกับความร่วมมือของทุกท่าน แต่ขออย่างเดียวว่า วันนี้เราจะไม่คุยกันเรื่องงาน!

พวกเรา 7 คน นั่งล้อมวงคุยกันเพียง 2 – 3 เรื่อง เช่น ภาพแห่งความสำเร็จในชีวิตของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาให้คุณค่า และคุณค่าที่พวกเขาสามารถมอบให้กับผู้คนรอบตัว ซึ่งเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เรื่องงาน

การพูดคุยเป็นไปอย่างธรรมชาติ สบาย ๆ สนุกสนาน หันมาดูนาฬิกาอีกที เราใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ​บทสนทนาที่เกิดขึ้นตลอด 3 ชั่วโมงกว่า มันน่าแปลกใจที่ผู้บริหารกลุ่มนี้ทำงานร่วมกันมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี แต่มีหลายเรื่องราวที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรก

 ผู้นำที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์เป็นจำนวนมากที่มักจะไม่สนใจที่จะลงทุนเวลาที่ต้องนั่งคุยกันแบบตัวต่อตัว หาโอกาสสร้างความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ หรือแสวงหาเรื่องราวอื่นๆ ในชีวิตนอกเหนือจากเรื่องงาน หลายครั้งที่เรื่องที่ไม่ใช่แค่เรื่องงาน กลับทำให้เรารู้จักเพื่อนของเรา ทีมของเราดีขึ้น และกลับเป็นแรงบันดาลที่ให้และรับจากคนใกล้ตัวที่สามารถหล่อเลี้ยง เติมเต็มให้กันและกันได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องไปหาแรงบันดาลใจจากที่ไหน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการเรียนรู้ เชื่อมั่น เข้าอกเข้าใจ เมตตาอยากช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  ทีมที่แข็งแกร่งในที่นี้ จึงไม่ใช้ทีมที่ “เข้มแข็งที่ผลลัพธ์” เท่านั้น แต่เป็นทีมที่ “แข็งแรงด้วยความสัมพันธ์” เพราะในวันที่ยังทำผลลัพธ์ได้ดี อะไร ๆ มันก็ดูดี แต่เมื่อยามที่มีปัญหา ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงของทีมจะเป็นภูมิคุ้มกันชั้นเยี่ยมที่ทำให้ทีมฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าข้างหน้าด้วยกัน