สร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Hybrid Workplace

จากนี้ไปการทำงานแบบ Hybrid Workplace จะกลายเป็นสิ่งปกติใหม่ องค์กรต่างๆ มากมายหันมาใช้วิธีการทำงานแบบนี้มากขึ้น เช่น Google, Apple, Nikon หรือแม้แต่ Slingshot เอง

ผู้บริหารหลายคนกังวลว่าการทำงานแบบ Hybrid Workplace (การทำงานจากบ้านผสมกับการมาทำงานที่ออฟฟิศ) จะทำให้การสร้างวัฒนธรรมองค์กร เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เพราะพนักงานไม่ได้มาเจอตัวกัน

แต่ผลการวิจัย (Remote not Distant by Gustavo Razzetti) พบว่าความเชื่อข้างต้น ไม่ใช่ความจริง อันที่จริงเราสามารถสร้างวัฒนธรรมแห่งการทำงานแบบ Hybrid Workplace ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยสูตร 5R ซึ่งประกอบไปด้วย

1. Reset Culture (ลืมสิ่งที่เป็น) : ก่อนสร้างวัฒนธรรมใหม่ ต้องเริ่มต้นด้วยการล้างวัฒนธรรมการทำงานแบบเก่าออกเสียก่อน ด้วยการปรับ Mindset ให้มองในมุมใหม่ๆ เช่น จากที่เคยทำงานแบบควบคุมก็ให้เปลี่ยนเป็นการทำงานแบบกระตุ้นและสนับสนุน (From Control to Facilitate) จากความเชื่อที่ว่าออฟฟิศคือที่ทำงานเปลี่ยนเป็นมองว่าออฟฟิศคือสถานที่ที่มาเจอกันเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ (From Office to Off-site Workplace) เป็นต้น

2.Reimagine a shared future (กำหนดอนาคตร่วมกัน) : แนวทางในการทำงานร่วมกันจากนี้ไป ควรให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของพวกเขาด้วย พนักงานควรให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรและไม่ต้องให้ความสนใจกับเรื่องอะไร เป็นสิ่งที่หัวหน้ากับลูกน้อง พนักงานกับองค์กร ต้องตกลงกันให้ชัดเจน

3. Reignite Belonging (จุดประกายความเป็นส่วนหนึ่งของทีม) : สร้างบรรยากาศแห่งความปลอดภัย ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง กล้าพูด กล้าถาม กล้าคิด กล้าแสดงออก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหมายหัว มองว่าทัศนคติไม่ดี หรือโดนตัดสิน

4.Rethink Collaboration (ให้ความหมายใหม่ของคำว่า “ความร่วมมือ”) : เมื่อโลกเปลี่ยนไป “ความร่วมมือ” ก็ต้องเปลี่ยนแปลง เดิม Collaboration คือการร่วมไม้ร่วมมือ ทำอะไรทำด้วยกัน ไปไหนไปด้วย ใครไม่มาถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ แต่จากนี้ไป “ความร่วมมือ” หมายถึงการทำงานประสานกัน ร่วมไม้ร่วมมือกัน แม้จะอยู่ต่างที่ต่างเวลา ไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกันเสมอไป คนหนึ่งตั้งคำถาม อีกคนหนึ่งค่อยแวะมาตอบในเวลาที่เหมาะสม

5.Release Agility (ปล่อยให้ความคล่องตัวดำเนินไป) : การทำงานแบบ Hybrid Workplace มีทางเลือกหลายทาง ไม่จำเป็นต้องมีวิธีเดียวในการผสมผสานการทำงานระหว่างบ้านกับออฟฟิศ บางองค์กรอาจปล่อยให้พนักงานเลือกตามสะดวก บางองค์กรกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนว่าเมื่อไรใครควรอยู่บ้านและเมื่อไรใครต้องมาที่ทำงาน แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เลือกใช้ให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานและประเภทของธุรกิจ

Ready to start your Leadership Journey?