ช่องทางการเรียนรู้ในอนาคต

ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเข้ามาทำลายล้างวงจรการทำงานของหลายๆ ธุรกิจ ในแง่ของการพัฒนาบุคลากรและการเรียนรู้ ก็ไม่ต่างกัน เมื่อโลกเปลี่ยนไป ถึงเวลาที่คนทำงานด้านการพัฒนาคน ต้องเปลี่ยนแปลง

 

จากข้อมูลของ Udemy for Business ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการด้านการพัฒนาคนโดยเน้นผู้ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ทได้ ผ่านหลักสูตรต่างๆ มากมายจากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายความชำนาญ ทำการวิจัยโดยสอบถามผู้จัดการฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลจำนวน 263 คนจากหลายประเทศทั่วโลก ว่ามีแนวทางอย่างไรในการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ในอนาคตเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

คำตอบที่ได้น่าสนใจมาก

 

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบเฉพาะตัว – ระบบเหล่านี้จะเรียนรู้พฤติกรรมการของคน ผ่านการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในหัวข้อต่างๆ จากนั้นจึงทำการประมวลผลเพื่อนำเสนอหลักสูตรที่น่าสนใจเฉพาะสำหรับบุคคลนั้นๆ ซึ่งวิธีการนี้เป็นหลักการเดียวกันกับที่ Amazon ใช้ในการนำเสนอสินค้าที่เกี่ยวโยงหรือคาดว่าลูกค้าจะสนใจซื้อหาเพิ่มเติม

การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียนลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคลากรเข้าใจและคาดเดาสิ่งที่พนักงานต้องการที่จะเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ

ถึงแม้ในปัจจุบัน Machine Learning จะมีการใช้งานอยู่เพียง 11% แต่หนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถาม วางแผนที่จะใช้วิธีการนี้เพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า 

ในขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 50% ตั้งใจที่จะวางแผนการเรียนรู้ของบุคลากรในองค์กรให้มีลักษณะเฉพาะตัว (Personalized Learning Path) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรและความสนใจส่วนตัวของผู้ที่ได้รับการพัฒนา ซึ่ง AI และ Machine Learning จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้ความตั้งใจนี้ประสบผลสำเร็จ

 

การเรียนรู้ผ่านการเล่นเกม (Gamification) จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพได้ – ปัจจุบัน ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาบุคลากรจำนวนมาก นำเกมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการพัฒนาบุคลากรให้เกิดความสนุกและต้องการที่จะเรียนรู้มากขึ้น แต่เบื้องหลังความสำเร็จของการใช้เกมมาพัฒนาคน ประกอบไปด้วยพื้นฐานที่ซับซ้อนของวิทยาศาสตร์เชิงพฤติกรรมและจิตวิทยา แม้ในปัจจุบันจะมีเพียง 8% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้เกมเป็นช่องทางในการเรียนรู้ แต่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมีมากขึ้นถึง 31% เลยทีเดียว

 

การเรียนรู้แบบเสมือนจริง (Virtual Reality – VR) และเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือน (Augmented Reality – AR) จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรมากกว่าปัจจุบัน – ในระยะเวลาอีกไม่ไกลจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการทำ VR และ AR จะถูกลงกว่าปัจจุบันหลายเท่า เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตการเรียนรู้ของมนุษย์ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

หากนึกไม่ออกว่า VR คืออะไร ให้คิดถึงอุปกรณ์คล้ายแว่นตาขนาดใหญ่ที่ต้องใช้สายรัดคาดหัวไว้ ภาพที่มองเห็นผ่านแว่นนี้จะทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจริงๆ อุปกรณ์ VR นี้ ถูกนำมาใช้แล้วในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ โดยใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบการเรียนสำหรับนักศึกษาแพทย์ ด้วยการจำลองสถานการณ์การผ่าตัดและให้นักศึกษาได้ผ่าตัดผ่านโลกเสมือนจริง

 

ส่วน AR นั้น ในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก พวกเราหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยี AR กันมาบ้างแล้ว เช่น จากโปรแกรมเกมสุดฮิต Pokemon Go ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงที่ผ่านมา หรือจากเอกสารที่ระลึกงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เห็นภาพประกอบ 3 มิติได้อย่างเสมือนจริง เป็นต้น

 

ไม่นานจากนี้ เราจะได้เห็น VR และ AR จะเข้ามามีบทบาทมาขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเรา

ความรวดเร็วเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในอนาคต – จากผลการสำรวจพบว่า 78% ของผู้ตอบแบบประเมินคิดว่า ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการพัฒนาทักษะให้กับบุคลากรเพื่อพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลักสูตรการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ดูเหมือนจะไม่ทันกาลและกำลังเป็นแนวทางที่ล้าสมัย   การอบรม 2-3 วันติดต่อกัน เริ่มเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น การซอยย่อยเนื้อหาให้เหลือเพิียงน้อยๆ พอที่จะบริโภคเข้าไปได้ในเวลาจำกัด (Bite-sized Learning) กำลังเป็นเทรนที่ทุกคนต้องการ

การเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม เป็นปัจจัยสำคัญในการวัดความสำเร็จของการเรียนรู้ – เมื่อผลลัพธ์ของการพัฒนาถูกผูกติดกับความสำเร็จทางธุรกิจ ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลต้องทำงานหนักขึ้น ในการออกแบบหลักสูตรและเนื้อหาของการเรียนรู้ ให้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน จำนวนชั่วโมงที่ได้เรียนรู้ หรือระดับความรู้ที่ได้จากหลักสูตร มีความสำคัญน้อยลง องค์กรจะหันมาให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ได้ (Output) มากกว่าส่ิ่งที่ใส่เข้าไป (Input)

นี่คือ Disruption ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกแห่งการพัฒนาคน คุณพร้อมหรือยัง?

Ready to start your Leadership Journey?