Sales 2018 ตอนที่ 2 : ชีวิตเซลล์ใครตัดสิน

ผ่านมากลางปีแล้ว ปานเพิ่งเริ่มต้นชีวิตที่ลูกค้าเรียกว่า “เซลล์” แต่ปานเรียกตัวเองว่า “ผู้มีอิทธิผล” ในวงเล็บ (ต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า) 

 

ปานมีความฝันว่าอยากทำกิจการอะไรสักอย่างของตัวเอง จริง ๆ แล้วมีไว้ในใจแล้ว และกำลังศึกษาข้อมูลด้วย ปานเชื่อว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจในอนาคต น่าจะต้องเคยเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ามาก่อนจึงมาเริ่มต้นตรงจุดนี้ และตั้งใจมุ่งมั่นกับสิ่งนี้อย่างเต็มที่

 

ตอนสมัยเรียน ปานค่อนข้างเรียนดี ไม่ว่าครูจะให้ทำงานอะไร สอบอะไร ปานก็มักจะทำได้ดี คะแนนค่อนข้างเยี่ยมเลย ขยันอ่านหนังสือ ส่งงานตรงเวลา เป็นที่มาของเกรดสวย ๆ ของปาน

 

มาวันนี้เริ่มต้นชีวิตการทำงาน สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ปานได้รับโอกาสที่ดีมาก ๆ เลย แม้ว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ ให้เข้าอบรมกับทางกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปี ซึ่งปกติพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่าจะได้ไปงานนี้ จะได้เรียนรู้ และมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ปานตื่นเต้นมาก ๆ เตรียมตัวเต็มที่ เข้าไปคุยกับพี่รริวรรณที่เป็นนายว่าควรต้องเตรียมศึกษาอะไรบ้าง

 

ในระหว่างการประชุม 3 วันได้อยู่กับลูกค้า ได้พบปะกับผู้บริหารระดับสูงของลูกค้า ปานตื่นเต้นดีใจมาก เพราะนี่แหละคือชีวิตที่อยากเจอก่อนอายุ 25 ปานกลับไปเล่าให้แฟนฟังด้วยความตื่นเต้น

…..

…..

….

เมื่อกลับมาทำงานเช้าวันนั้นเลย พี่รวิวรรณ เรียกปานเข้าไปคุย บอกว่าลูกค้าโทรมาแนะนำ (Feedback) ว่าปานดูไม่ค่อยมีประสบการณ์ (ก็ไม่แปลก เพราะเพิ่งเรียนจบมา) แต่เวลานำเสนอดูมั่นใจเกินพอดี พูดจาแข็ง ๆ ไม่น่าฟัง เหมือนไม่รู้ตัวด้วยนะ

…..

…..

…..

ปานอึ้ง และงงไปหลายนาที ไม่รู้ว่าจะเริ่มถาม หรือ ตอบ หรือ เงียบ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะระหว่างประชุม ลูกค้าไม่ได้พูดอะไร แล้วทำไมถึงมาบอกนายแบบนี้

 

ไม่ยุติธรรมเลย ปานคิด

 

นายไม่ได้แนะนำอะไร บอกให้กลับไปคิดดู เรียนเก่ง เรื่องแค่นี้น่าจะพอคิดออก เอาสิ เจอแบบนี้ ปานไปต่อไม่ถูกเลย 

 

เย็นนั้นกลับไปคุยกับแฟนว่าจะลาออกดีมั๊ย ถ้าเราเป็นเพื่อน พี่ แฟนปาน จะแนะนำอย่างไรดี

 

บทสรุปตอนที่ 2 

 

เมื่อเราต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ที่ไม่ใช่ทำงานคนเดียวเหมือนตอนเรียน ชีวิตและความสำเร็จของเราจะมีองค์ประกอบหลายมิติมากยิ่งขึ้น

 

ถ้าเย็นนั้นปานกลับไปคิด แล้วสรุปว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว ไม่ควรต้องปรับอะไรแล้ว ก็คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือจบลงคือปานก็ต้องหางานที่ต้องทำคนเดียว 

 

แต่ถ้าปานคิดใหม่ ทำอย่างไรจึงจะทำให้คนอื่นมองต่างไปจากเดิม อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปานเริ่มพัฒนาในมุมใหม่ ๆ ที่ตอนเรียนปานไม่เคยได้ทราบมิติเหล่านี้

 

นั่นคือ การฝึกรับข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) จากคนอื่น ไม่ได้แปลว่าเราต้องเปลี่ยนตามคนอื่นไปทุกอย่าง เช่น ถ้าลูกค้าบอกว่าเราพูดจาแข็งๆ ไม่น่าฟัง  ถ้าได้มีโอกาสคุยกับลูกค้าอีก อาจถามว่า ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เราอยากพัฒนาส่วนนี้ ช่วยแนะนำได้ไหมคำพูดประมาณไหนของเราที่ทำให้เข้ารู้สึกว่าไม่ค่อยน่าฟัง 

 

ถ้าไม่ได้คุยกับลูกค้า ก็หาโอกาสถามนาย เพื่อนร่วมงาน ซึ่งถ้าเราเปิดใจ เราอาจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น จริงแล้วปัญหาไม่ได้เป็นที่คำพูด แต่หน้าตาที่จริงจังเกินไป ยิ้มยาก ทำให้คนรู้สึกว่าเราเข้าถึงยาก เพราะปานเป็นเด็ก ตอนแรกตั้งใจทำแบบนั้น เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าปานเป็นผู้ใหญ่ แต่ผลกลับตาลปัตร รู้เช่นนี้ ง่ายมาก คราวหน้าก็แค่ยิ้ม

 

ดังนั้น ชีวิตคนทำงาน คนอื่นตัดสิน หากเราต้องการเป็นผู้มีอิทธิพลต่อผู้อื่น เราต้องเปิดใจรับฟังมุมมอง อื่น ๆ ก่อนด้วย เห็นใจค่ะ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่คนที่เป็นเซลล์ทุกคนต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้

Ready to start your Leadership Journey?