Empathy กุญแจแห่งการรักษาคน
Empathy กุญแจแห่งการรักษาคน
แน่นนอนองค์กรต่างๆ ก็อยากได้คนเก่ง คนฉลาด คนทำงานรวดเร็วและรอบคอบมาร่วมงานด้วย เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้รุ่งเรือง แต่การที่เอาแต่มุ่งมั่นพุ่งชนเป้าหมาย เพื่อผลสัมฤทธิ์ของงานเพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จอีกต่อไป เพราะคนในยุคสมัยนี้ เน้นการทำงานที่ได้รับผลตอบแทนและความสุขกายสบายใจไปด้วย พร้อมๆ กัน
คนเก่งๆ อาจเลือกที่จะลาออกจาก องค์กรไปเพียงเพราะไม่ได้รับความเข้าอกเข้าใจหรือไม่มีความสบายใจในการทำงาน ดังนั้นการที่หัวหน้าและผู้บริหารสื่อสารและรับฝังอย่างเข้าใจ (Empathy) ในสิ่งที่พวกเขากำลังทำหรือพยายามบอก จะช่วยรักษาคนให้อยู่กับองค์กรได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
มาดูกันว่า การสร้าง Empathy เพื่อเสริมจุดเเข็งให้องค์กร ทำได้อย่างไรบ้าง
1. มองสิ่งต่างๆ ในมุมที่กว้างขึ้น : ต้องยอมรับว่าโลกนี้มีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก อย่าตีกรอบว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้จึงจะถูกต้อง การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และพยายยามเข้าใจมุมของคนอื่นเพิ่มเติม จะทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจโลกมากขึ้น
2: หมั่นสร้างกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ : วิถีแห่งการทำงานแบบใหม่ทำให้ทุกคนห่างเหินกันมากขึ้น เมื่อต่างคนต่างทำงาน ไม่ได้เห็นหน้าคาดตาหรือรู้ถึงความเป็นไปของอีกฝ่าย ความรู้สึกผูกผันและใกล้ชิดกันก็มีน้อยลง เมื่อไม่มีเพื่อนสนิทในองค์กร การตัดสินใจที่จะจากไป ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องคิดมาก
3. การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ : การสื่อสารด้วยความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจกัน เป็นวัฒนธรรมที่องค์กรควรสร้างขึ้น เพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานด้วยกันเองและต่อองค์กรด้วย เพราะเมื่อการสื่อสารเป็นไปได้ด้วยดี งานก็จะราบรื่น ความสุขก็จะเพิ่มขึ้น
4. ทุกเสียงมีค่า อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล : การฟังเพื่อเข้าใจผู้อื่น ต้องเป็นการฟังให้ได้ยิน ไม่ใช่สักแต่ว่าฟังเฉยๆ ฉะนั้นการนำมุมของเขาและของเรามารวมกันเพื่อหาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ เป็นแนวทางที่ช่วยสร้างความสำเร็จและความผูกพันที่ยังยืนได้
ความเห็นอกเห็นใจ อาจเริ่มต้นจาก “เธอ” และ “ฉัน” แต่หากมุ่งมั่นและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ คำว่า “เรา” ก็คงเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า !
เมื่อไม่มีเพื่อนสนิทในองค์กร การตัดสินใจที่จะลาออก ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่ต้องคิดมาก
อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี