วิธีก้าวข้าม ‘หายนะ’ แห่ง ‘ภาวะผู้นำ’
จำไว้เป็นบทเรียน (อีกแล้ว) นะครับ สำหรับกรณีของท่านปลัดคนเก่ง แห่งกระทรวงคลองหลอด ส่งท้ายปีขาล คล้อยหลังไม่กี่วัน หลังจากออกมาด่าลูกน้องด้วยสไตล์คนชนบท (แกว่ายังงั้น) จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง
ในที่สุดก็ต้องออกมาโพสต์ขอโทษกับพฤติกรรมของตัวเองที่ไม่ทันยั้งคิด และใช้ถ้อยคำรุนแรง รวมถึงยังบอกตัวเองว่า “ผมจะต้องเลิกการด่าลูกน้องด้วยคำพูดที่สังคมกำลังตำหนิผม”
จริง ๆ ถ้าเลิกด่าลูกน้องด้วยถ้อยคำที่รุนแรงก่อนหน้านี้ หายนะด้านภาวะผู้นำคงไม่เกิดขึ้น เพราะมีคำเตือนจากภรรยาและผู้ใหญ่หลายต่อหลายครั้งแล้ว
สิ่งที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้นำที่ดีหรือแย่ คือพฤติกรรมที่แสดงออก ไม่ใช่สถาบันการศึกษา ไม่ใช่วุฒิการศึกษา และไม่ใช่ตำแหน่งที่นั่งทับอยู่ แต่ด้วยความที่ ผู้นำ ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เมื่อเราไม่พอใจกับการทำงานของลูกน้องแล้วควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อารมณ์ก็จะไปกำหนดพฤติกรรมของเรา ทำให้เราเลือกที่จะทำตามคำสั่งของอารมณ์
ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันนี้ สิ่งที่ควรทำคืออะไร ? สตีเฟน อาร์ โควีย์ กูรูด้านภาวะผู้นำ บอกว่า จริง ๆ แล้ว มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ 4 อย่าง (The Four Unique Human Gifts) แต่บางคนอาจไม่เคยรู้และไม่เคยนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิต
ดังนั้นถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จงทำ 4 อย่างนี้
- จงรู้เท่าทันตัวเอง (Self-Awareness) เมื่อกำลังโกรธก็รู้ว่าโกรธ รู้จักตั้งคำถามกับตัวเอง โดยมองตัวเองเป็นหลักว่า เรานั้นมีตัวตนอย่างไร มีความคิดอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร และให้คุณค่ากับสิ่งใด
- จินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น (Imagination) เมื่อเรารู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองแล้ว ให้จินตนาการต่อไปว่า พฤติกรรมที่จะแสดงออก จากความโกรธนั้นจะส่งผลอย่างไร เช่น ไม่พอใจที่ลูกน้องทำงานไม่ดี ถ้าเราด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง ผลลัพธ์คือ ลูกน้องจะกลัว ไม่กล้าพูดความจริง ส่วนตัวเราก็จะเสียบุคลิกภาพ กลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ
- แยกแยะผิดชอบชั่วดี (Conscience) รู้ว่าพฤติกรรมใด เป็นสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ รู้สึกดีที่ทำดี รู้สึกผิดที่ทำไม่ดี แยกแยะได้ว่า การใช้คำหยาบคายในที่ประชุม และการตั้งคำถามดูถูกคนอื่น เป็นสิ่งไม่ดี แต่การพูดด้วยเหตุผลโดยปราศจากอารมณ์เป็นสิ่งที่ดีกว่า จิตสำนึกของมนุษย์เปรียบเสมือนกลไกควบคุมให้มนุษย์รู้สึกผิดชอบชั่วดี และเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน
- เลือกตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น (Independent Will)โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของอารมณ์หรือแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ถ้าเราทำข้อ 1 ถึง ข้อ 3 มาตามลำดับ เราก็จะทำข้อสุดท้ายนี้ได้อย่างเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองที่ตระหนักรู้ว่า ตนเองควรเลือกแสดงพฤติกรรมอย่างไรจึงจะเหมาะสม และได้รับการยอมรับจากลูกน้องและคนรอบข้าง
ดังนั้น ถ้าอยากก้าวข้าม ‘หายนะ’ แห่ง ‘ภาวะผู้นำ’ ลองเอาหลักการ 4 ข้อนี้ไปฝึกใช้ให้คล่องนะครับ
ดร.จักรพันธ์ จันทรัศมี
Consulting Partner
Slingshot Group