https://www.prachachat.net/csr-hr/news-406558

กระแสโค้ชชิ่งมาแรงในสังคม ธุรกิจ จึงมีโค้ชหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ขณะที่จำนวนลูกค้าไม่ได้เติบโตหวือหวา ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นตามลำดับ

 

“ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจแนวโน้มธุรกิจโค้ช โดยมีกูรูที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการชี้ทิศทางแนวโน้มตลาด

 

“อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา” กรรมการผู้ก่อตั้งบริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด เผยว่า ความนิยมการใช้โค้ชในประเทศไทยในระดับองค์กรตั้งแต่ 15 ปีก่อน จุดเริ่มต้นมาจากบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในเมืองไทย นำไอเดียการโค้ชชิ่งผู้บริหารระดับสูงชาวต่างชาติที่เข้ารับตำแหน่งในไทย ให้มีความเข้าใจวัฒนธรรม การทำงาน ร่วมกับคนไทย

 

“ตลาดระดับองค์กรในไทยมีความเข้าใจการโค้ชชิ่งมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีโค้ชเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ มีคุณภาพ ไม่มีคุณภาพ ราคาก็แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ชั่วโมงละหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท ตามประสบการณ์ของโค้ช มูลค่าตลาดธุรกิจโค้ชชิ่งอยู่ที่ประมาณ 100-200 ล้านบาท บริษัททำธุรกิจโค้ชชิ่งจริงจังในไทยมี 2-3 บริษัทเท่านั้น และโค้ชที่ประกอบอาชีพโค้ชเป็นรายได้หลักปัจจุบันไม่น่าเกิน 100 คน”

 

ความสำคัญของธุรกิจโค้ชชิ่งในปีหน้าและปีถัด ๆ ไปยังคงไปต่อได้ เพราะการพัฒนาคนยังคงเป็นวาระสำคัญของทุก ๆ องค์กร ยิ่งการแข่งขันรุนแรง บุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะทำให้องค์กรสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ แต่โค้ชเองต้องพัฒนากลยุทธ์หนีคู่แข่ง เพราะยิ่งนานวันจะมีคนเข้าวงการโค้ชมากเรื่อย ๆ จึงต้องปรับการโค้ชให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง และแนวโน้มด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

 

ในส่วนของสลิงชอทเอง จะเปิดให้บริการโค้ชชิ่งออนดีมานด์ ผ่านแพลตฟอร์มการโค้ชออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าจ่ายน้อยกว่า เข้าถึงโค้ชมืออาชีพได้สะดวกกว่า และไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการเดินทาง สถานที่

 

ขณะที่ “เกรียงศักดิ์ นิรัติพัฒนะศัย” ผู้เชี่ยวชาญโค้ชชิ่งผู้บริหารทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์มากกว่า 16 ปี มองว่า กระแสตลาดโค้ชที่เห็นได้ชัดคือ คนอยากเป็นโค้ช กับอยากเปิดโรงเรียนสอนโค้ชเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นช่องทางหารายได้เสริมจากงานประจำ

 

คนที่เข้ามาวงการเป็นโค้ชจะมี 2 แบบ คือ หนึ่ง life coach หรือโค้ชชีวิต คือการโค้ชที่มีศาสตร์แนะแนวทางคน และเป็นที่ปรึกษาการแก้ปัญหาชีวิต และการไปสู่เป้าหมายชีวิต สอง executive coach หรือการโค้ชชิ่งผู้บริหารระดับสูง ซึ่งไม่ได้โฟกัสที่ปัญหา แต่เป็นการทำให้ผู้บริหารมีความคิดชัดเจนขึ้น เป็นการพูดคุย การตั้งคำถาม การรับฟัง

 

“ผมเลือกโค้ชชิ่งผู้บริหารระดับสูง เพราะถ้าข้างบนไม่มีการโค้ชชิ่ง คนที่ตำแหน่งรองลงมา และองค์กรจะเปลี่ยนแปลงลำบาก แม้จำนวนลูกค้าที่เป็นผู้บริหาระดับสูงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะบริษัทส่วนใหญ่ที่จะใช้โค้ชจะเป็นบริษัทท็อป 100 ซึ่งจำนวนไม่ได้เปลี่ยนไป ลูกค้าของผมเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10-15 คน”

 

กลุ่มนี้ไม่หายไปแต่ไม่ได้โตหวือหวา ปีนี้เป็นปีที่ผมคิดว่าธุรกิจถดถอย ลูกค้าน่าจะหายไปสัก 1 ใน 3 และมองว่าเราจะโชคดีปีหน้า

 

ในฝั่งผู้ประกอบการธุรกิจสถาบันสอนโค้ชชิ่ง “พจนารถ ซีบังเกิด” ประธานกรรมการบริหารกลุ่ม บริษัท จิมมี่ เดอะ โค้ช จำกัด กล่าวว่า เริ่มเดินทางสายโค้ชชิ่งผู้บริหารมากว่า 10 ปี เช่นเดียวกัน จึงเกิดความคิดว่าอยากสอนศาตร์ไลฟ์โค้ช เพราะเชื่อว่าศาสตร์นี้จะทำให้คนไทยเก่งขึ้น ส่งเสริมให้ประเทศก้าวหน้ามากขึ้น

 

จึงตัดสินใจเปิด Thailand Coaching Academy (TCA) และได้รับการตอบรับที่ดี มีคนมาเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ปี 2562 เป็นปีที่มีคนมาเรียนมากกว่าปีก่อนหน้าเกือบเท่าตัว โดยผู้เรียนมองว่าการเรียนโค้ชชิ่งไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อไปประกอบอาชีพอย่างเดียว แต่เป็นการเพิ่มทักษะการดำรงชีวิตในสังคมด้วย

 

สัดส่วนลูกค้าของ TCA จะเป็นบุคคลทั่วไปมากกว่าคนจากองค์กร เพราะคนอยากมาเรียนโค้ชให้เป็นทักษะติดตัว สถาบันของเราเป็นที่แรกและที่เดียวในไทยที่มอบใบรับรองให้ผู้เรียน ที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากได้การรับรองหลักสูตรระดับ ACTP (accredited coaching training program) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ ICF (International Coach Federation)

 

ด้าน “รัชดา อภิรมย์เดช” ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเปิ้ลเวิร์ค จำกัด (SimpleWork) ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจเทรนนิ่งและการโค้ชชิ่งตามโจทย์จากลูกค้า ชี้ว่า ตลาดโค้ชชิ่งน่าจะไปด้วยดีใน 2 มุม หนึ่ง ความต้องการธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เกิดความยากในการทำธุรกิจมากขึ้น การทำให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้ายากขึ้น ผู้บริหารจึงมีความเครียด ดังนั้นจะเห็นโค้ชเข้ามามีบทบาทมาช่วยในการแก้ปัญหามากขึ้น

 

แต่อีกมุมหนึ่งธุรกิจโค้ชชิ่งก็ต้องปรับตัว เพราะผู้บริหารต้องการวิธีการทำงานที่แตกต่างไปจากอดีต จึงมองว่า virtual coaching คือการโค้ชด้วยเทคโนโลยี อาจจะเป็นออนไลน์ ที่มี AI (artificial intelligence) แต่ต้องผสมผสานกับออฟไลน์ด้วย เรียกว่า OMO (online merge offline) และจะทำในลักษณะไมโครโค้ชชิ่ง คือใช้เวลาสั้น ๆ 15-20 นาที