ทำอย่างไรเมื่อหมดไฟในการทำงาน

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Burnout Syndrome บ่อยๆในยุคปัจจุบัน 

มันคือสภาวะทางด้านจิตใจที่เกิดจากความเครียด บ่อยครั้งทำให้รู้สึกมีความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ เบื่อหน่าย ไม่อยากหยิบจับทำอะไร สูญเสียพลังงานทางจิตใจ มองงานที่กำลังอยู่ในเชิงลบ ขาดความสุข หมดความสนุก แม้แต่แรงจูงใจที่เคยมีก็หดหายไป ประสิทธิภาพการทำงานก็ลดต่ำลง 

อาการ Burnout ส่วนใหญ่มักมีจุดเริ่มต้นมาจากงานที่ทำ เช่น งานหนัก ปริมาณงานเยอะ ความซับซ้อนของงานมาก เวลาจำกัด ไม่สามารถเรียงลำดับความสำคัญของงานได้ ขาดอำนาจในการตัดสินใจ ได้งานที่ไม่ถนัด ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียว ขาดที่ปรึกษาหรือไม่มีทิศทางชัดเจนให้เดินต่อ รู้สึกไร้ตัวตนในที่ทำงาน ทำงานที่ขัดกับคุณค่าและจุดมุ่งหมายในชีวิตของตนเอง เป็นต้น

อาการเหล่านี้หากปล่อยไว้นานไม่ดีแน่ ผมมีวิธีแก้ไขมาฝาก ซึ่งอาจช่วยให้สามารถเยียวยาอาการ Burnout ได้บ้าง

1. นอนหลับให้เพียงพอและเป็นเวลา – อย่าเสียเวลาไปกับความกังวลในเรื่องงานมากจนเกินไป หาทางเพิ่มทักษะในการจัดการกับปัญหา เช่น อ่านหนังสือหรือฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง เป็นต้น

2. กินอาหารที่มีประโยชน์ – กินให้ครบทั้ง 5 หมู่ ดื่มน้ำเยอะๆ อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์บ่อยจนเกินไป

3.หากิจกรรมอย่างอื่นทำนอกเวลางาน เช่น ฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย ไปเที่ยวหรือลาพักร้อนเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่าจมปลักอยู่กับงานเพียงอย่างเดียว

4. ปรับทัศนคติในการทำงาน – ทำความเข้าใจในเนื้องานและองค์กรที่ทำงานด้วย ถ้าเผอิญไม่ชอบงานที่ทำอยู่ คุณมี 2 ทางเลือก ทางเลือกที่หนึ่ง ทำใจให้ชอบงานนั้นด้วยการพยายามมองหาข้อดีของงานที่ทำ ทางเลือกที่สอง เปลี่ยนไปหางานใหม่ที่คิดว่าชอบและทำได้ อย่าเสียเวลาอยู่กับงานที่ไม่ชอบ โดยไม่คิดจะทำอะไรเลย

5. อย่าเก็บความไม่สบายใจไว้คนเดียว – อย่าลังเลที่จะปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าของเรา การขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอให้เห็น ในทางกลับกันเป็นความกล้าหาญที่จะยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้หรือแก้ไขปัญหาไม่ได้ต่างหาก

ลองดูครับ

อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี ๆ