ในช่วงสองปีมานี้ ดิฉันได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องการนำการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ต้องยอมรับว่าแม้โครงสร้างเนื้อหาจะคล้ายๆ กับตอนก่อนโควิด แต่อารมณ์ของผู้เรียนแตกต่างกันอย่างมาก

ช่วงก่อนการระบาดของโควิด ดิฉันต้องใช้เวลากว่าครึ่งหนึ่งของการบรรยาย ในการโน้มน้าวให้ผู้เข้าฟังเห็นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง ทำไมต้องเปลี่ยน และผลของการไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร ผ่านการใช้หลากหลายกรณีศึกษาทั้งที่เคสที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว

ช่วงหลังโควิดมานี้ แทบไม่ต้องพูดถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง วันนี้ผู้คนเป็นจำนวนมากต่างอยู่ในองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลง และทุกคนในองค์กรต่างรู้ดีว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน​

ปัญหาหลักๆ ในตอนนี้คือความ “เหนื่อยล้า” เพราะหลายอย่างประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน ทั้งงานปัจจุบัน งานใหม่ โปรเจคใหม่ และทุกอย่างก็ดูสำคัญและความเร่งด่วนทั้งสิ้น

จอห์น พี. คอตเตอร์ สุดยอดปรมาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเปลี่ยนแปลง แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด​ บอกไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จต้องทำให้คนในองค์กรรู้สึก “อยากเปลี่ยน” และสนุกกับการเปลี่ยนแปลง มากกว่าความรู้สึก “ถูกเปลี่ยน” และมนุษย์ไม่ได้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง แต่มนุษย์ต่อต้านการ “ถูกเปลี่ยนแปลง”

เราพบว่าในชีวิตการทำงานจริงวันนี้ คนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ยังรู้สึกว่าตัวเองกำลัง “ถูกเปลี่ยน” ด้วยความจำเป็นต่าง ๆ เช่น ต้องทำตามระดับนโยบาย ต้องปรับตามลูกค้าที่เปลี่ยนไป ในขณะเดียวกันคนเหล่านี้กลับอยู่ในฐานะผู้นำที่ต้องขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ทั้ง ๆ ที่หัวใจและร่างกายอ่อนล้าเต็มที

ดังนั้นก่อนจะไปเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ต้องจัดการกับความคิดและความรู้สึกของตนเองให้ได้ก่อน เพราะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยทั้งสมองและหัวใจ มาทำความรู้จัก A.B.C.D. สูตรฮีลใจตนเองในวันที่ต้องถูกเปลี่ยนแปลง

• ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว (Accept Reality)

รู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งไม่คุ้นเคย รู้ตัวว่าอะไรคือความกลัวที่อยู่ในจิตใจ รู้ตัวว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้มันอย่างไร รู้ว่าโลกไม่เคยหยุดนิ่งและเราต้องตามให้ทัน

• มองไปที่โอกาสไม่ใช่อุปสรรค (Become Proactive)

เปิดใจ มองสองด้าน ทั้งโอกาสและอุปสรรค มองหาประโยชน์ ที่ได้จากการเปลี่ยนแปลง มองหาว่าเรามีความสามารถในการช่วยนำหรือขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร หากยังหาประโยชน์ไม่ได้ ต้องเชื่อว่าตนเองมีทางเลือก

• ควบคุมอารมณ์ให้อยู่ (Control Your Emotion)

รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง ยอมรับอารมณ์ตนเอง ควบคุมอารมณ์ตนเอง และพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่กับกลุ่มคนที่มองการเปลี่ยนแปลงในแง่บวก

• พัฒนาตนเองให้พร้อมสำหรับอนาคต (Develop Your Competence)

ใช้พลังงานที่เหลือคิดถึงอนาคต ประเมินความรู้และทักษะที่ต้องเพิ่มเติม วางแผนพัฒนาตนเองเพื่อใช้ในอนาคต ตั้งใจฝึกฝนและ ลงมือทำทันที