ปีใหม่แล้ว ควรเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ

“ผมว่าคุณธัญควรลองเขียนแนวใหม่ดูบ้าง” อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา Founding Partner ของ Slingshot Group (Thailand) และ Executive Coach มือทองของไทยกล่าวกับผม เรานั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันช่วงสัปดาห์สุดท้ายแห่งปี 2018

 

“ดีครับ แต่เขียนยังไงล่ะพี่?” ผมถาม

“คุณธัญว่าเรื่องอะไรได้รับการตอบรับดีที่สุดในปี 2018 นี้?” แกถามชวนผมคิด สไตล์โค้ชมืออาชีพเป๊ะ

“เรื่องคนไทยไปอินเตอร์ครับ” ผมตอบโดยไม่ต้องลังเล

 

ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่สามของผมแล้วกับชีวิตการออกไปตะลุยต่างแดนบนเส้นทาง Leadership Development ตั้งแต่โดนดูถูกว่าคนไทยไม่เด่นเรื่องความเป็นผู้นำ ก้าวออกไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อนร่วมงานต่อต้านทุกเรื่องที่เรานำเสนอ ลูกค้าตั้งแง่ว่าอาจารย์หน้าเด็ก (จริง ๆ อันนี้โกรธปนปลื้ม) ฝึกสมองให้กลับไปใช้ภาษาอังกฤษ สื่อสารกับคนเรียนที่ไม่ใช่คนไทย ปรับตัวทั้งวิธีการทำงาน อาหารการกิน ไม่รวมที่ย้ายภรรยาและลูกๆมาเป็นครอบครัว Expats ด้วยกัน

จนถึงวันนี้ วันที่ซีอีโอชาวต่างชาติยื่นโทรศัพท์ข้ามโต๊ะมาให้ผมดู WhatsApp พร้อมยื่นมือมาให้จับ ผมเพิ่งพูดกับพนักงานเกือบสองร้อยคนของเขาในการประชุมบริษัทครั้งสุดท้ายของปี

 

“Dear (CEO). I just wanted to tell you that this was the best learning session I have ever had. It was sharp, insightful, funny, and thought-provoking. I could not stop thinking about what I need to do now. Thank you for giving us the opportunity to attend and for bringing Dr Thun to our organization.”

 

นายชาวอเมริกันของผมยิ้มแก้มแทบปริ เอื้อมมือมาตบหลังตบไหล่ ไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนเดียวกับที่เคยปรามาสคนไทยเอาไว้

งั้นพอพี่ป๊อปถาม ผมจึงตอบได้โดยไม่ต้องลังเลว่า อยากเป็นส่วนเล็ก ๆ ในการช่วยความพร้อมของคนไทย ในการประกาศศักยภาพของเราให้โลกได้สัมผัส

“งั้นเขียนเรื่องนี้แหละ คุณธัญทำเป็นหมวด ๆ นะ ตั้งแต่เริ่มคิดเริ่มตัดสินใจออกเดินทาง ปรับตัวอย่างไรให้คนยอมรับ เอาชนะใจนาย ซื้อใจลูกน้อง ได้ใจเพื่อนร่วมงาน ค่อย ๆ เรียบเรียงไป” แกหยุดคิดนิดหนึ่ง

 

“แต่ผมอยากเสนอให้คุณธัญลองทำเป็น How To ให้มากขึ้น ผมว่าคุณธัญเขียนสไตล์เรื่องเล่าสู่กันฟังมาหลายปีแล้ว น่าจะลองเขียนชัด ๆ ไปเลยว่าจากประสบการณ์ตรงนี้ มีคำแนะนำอะไรให้คนอ่านเอาไปปฏิบัติตามได้บ้าง เขียนตรง ๆ เลยไม่ต้องกั๊ก (ประโยคหลังนี่ผมเติมเองในหัว)”

 

คืนนั้นผมกลับไปนอนคิด ไอ้หมวด ๆ ที่ อ. อภิวุฒิ แกว่ามันจะหน้าตาประมาณไหน สรุปได้คร่าว ๆ อย่างนี้ครับ

1. Build The Foundation วางรากฐาน อยากสำเร็จต้องกล้า อย่าหยุดกับที่ มีความแตกต่าง มองโลกให้กว้าง สร้างสิ่งจำเป็น
2. Grab The Opportunity คว้าโอกาส จะไปสู่อนาคตต้องกระโดดจากปัจจุบัน รู้จักตัวเอง พิจารณาให้ดี คิดให้ครบ มีทางออกกับผลลัพธ์ทุกหน้า อย่าด่วนตัดสินใจ
3. Prepare Prepare Prepare เริ่มที่ใหม่ต้องค่อย ๆ ก้าว ลงน้ำร้อนอย่ากระโดดตูม ทำการบ้านให้ดี มีใจเผื่อไว้ว่างานใหม่ย่อมมีปัญหา ผิดพลาดได้แต่ต้องรู้ความเสี่ยง
4. Be Positive ยิ้มไว้ก่อนทั้งในใจและใบหน้า เมื่อเลือกมาแล้วอย่าลังเล แต่อย่ายิ้มอย่างเดียวสมองต้องคิดไปด้วย อ่านคนใหม่รอบตัวให้เร็วที่สุด
5. Win Over The Boss เอาชนะใจคนที่จ้างเรามา ใช้เวลาสังเกตและเรียนรู้เขาให้ละเอียด ทั้งจุดแข็งจุดอ่อน ใครทำงานกับเขาได้ดี ใครมักจะงัดข้ออยู่เรื่อยๆ ที่สำคัญเรามีอะไรจะช่วยเขาได้
6. Win Over The Colleagues ได้ใจเพื่อนร่วมงาน จะซื้อใจต้องใช้ใจซื้อ ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าพูดตรงๆ อย่าหลงนินทาใคร ไม่ยกตนข่มใคร นอบน้อมเข้าไว้ ให้ผลงานเป็นตัวชี้วัด
7. Win Over The Customers ลูกค้าใหม่ไม่เหมือนลูกค้าเดิม จะใช้มุกเก่ากับเวทีใหม่ไม่ได้ ต้องออกไปทำความรู้จัก เป็นเหมือนฟองน้ำซึมซับ คนที่ประสพความสำเร็จเค้าทำอย่างไร วัฒนธรรมใดที่เราต้องเรียนรู้
8. Family First ออกมานอกประเทศคนที่ต้องปรับตัวมากสุดไม่ใช่เราแต่คือครอบครัว ดูแลพวกเขาให้ดีก่อน ความสำเร็จในงานเหมือนเลขศูนย์ที่อยู่ข้างหลัง ส่วนเลขหนึ่งข้างหน้าคือชีวิตครอบครัว จะหาศูนย์มาเรียงได้กี่ตัวก็ไม่มีความหมายหากไร้เลขนำ

 

ได้มาประมาณนี้ก่อนครับ แต่อย่าเพิ่งยึดติดว่ามันจะเป๊ะ เอาเป็นว่าปี 2019 นี้เรามาค่อย ๆ คลี่ไปด้วยกัน (ออกเสียงให้ถูกนะจ๊ะ)

แล้วสิ้นปีมาสรุปผลกันครับว่าจะได้เรื่องได้ราวแค่ไหน!