‘ความเสี่ยง’ ลดได้ด้วย ‘ความรู้’

     ไม่ว่าคุณจะเล่นหุ้น เล่นพระเครื่อง เล่นไม้ด่าง หรือเล่นบอนสี สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ความเสี่ยง เพราะอย่างที่รู้กัน “การลงทุนคือความเสี่ยง” แต่ยิ่งเสี่ยงมาก กำไรยิ่งสูง ฝรั่งบอกว่า High Risk High Return นั่นเป็นเรื่องจริง มันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนจากการลงทุน ถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคารก็จะได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 1% แต่ถ้าเอาเงินไปเล่นหุ้นก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง

     ความเสี่ยงจึงเป็นตัวแปรที่นักธุรกิจทุกวงการต้องพบเจอ  ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อค้าแม่ค้าแห่งวงการไม้ด่างและบอนสีที่กระแสพุ่งกระฉูดอยู่ในขณะนี้ คนหลายอาชีพกระโดดเข้าร่วมวงไพบูลย์ จากเดิมเป็นช่างทำผม แต่งหน้า ทำเล็บ ขายประกัน ขายเฟอร์นิเจอร์ เลี้ยงไก่ชน เลี้ยงปลากัด ปัจจุบันกลายเป็นพ่อค้าแม่ค้าไม้ด่างและบอนสีไปเรียบร้อย

     พ่อค้าแม่ค้าส่วนหนึ่งใช้กลยุทธ์แบบซื้อมาขายไป บางคนประสบความสำเร็จ ซื้อต้นไม้ก่อนกระแสในราคาต้นทุนต่ำ แล้วขายในจังหวะมีกระแสจึงได้กำไรสูง ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าบางคน แม้จะซื้อต้นไม้ในกระแสราคาแพงก็จริงอยู่ แต่กลับขายได้ในราคาดีมีกำไร เนื่องจาก “ซื้อเป็น” คือรู้ว่าควรซื้อต้นไหนแพง และควรซื้อต้นไหนถูก แม้จะมีความเสี่ยง แต่ “เสี่ยงเป็น”

     คำถามที่น่าสนใจคือ เราจะเสี่ยงได้มากแค่ไหน? คำตอบที่ได้คือ “เราจะเสี่ยงได้มากเท่ากับความรู้ที่เรามี” จริงไหม? ถ้าเรามีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในต้นไม้ที่เราจะซื้อ เราจะกล้าเสี่ยง ไม่กลัวถูกหลอก แม้คนอื่นอาจจะมองว่าไม่น่าคุ้ม แต่เราจะมองว่าต้นไม้นี้มีอนาคต ทำกำไรได้ชัวร์ เพราะเรามีความรู้มากพอที่จะลดความเสี่ยง

     ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงแบบง่าย ๆ เริ่มต้นที่ตัวเรา คือหาความรู้ในเรื่องนั้นให้มากที่สุด ผมมีคำแนะนำ 3 ข้อ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้รู้ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน นอกเหนือจากการศึกษาจากตำราด้วยตัวเอง ดังนี้

1.ถามผู้รู้ เป็นวิธีการหาความรู้ที่ตรงเป้าที่สุด เพราะเป็นแหล่งข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรง ซึ่งผ่านโอกาสและอุปสรรคต่าง ๆ มาแล้ว จึงถือว่าเป็นทางลัดในการเรียนรู้

2.แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นการนำความรู้ที่มีอยู่ในระดับหนึ่งไปแชร์กับคนอื่นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการให้และรับฟีดแบ็คไปในตัว เพราะเราบอกในสิ่งที่รู้และรับในสิ่งที่ยังไม่รู้ เนื่องจากความรู้ที่เรามีในตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้แลกเปลี่ยนกันจะทำให้เรามีความรู้ที่สมบูรณ์ขึ้นและมีความมั่นใจที่จะลงมือปฏิบัติมากขึ้น

3.ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่น เป็นขั้นตอนการสร้างความเชื่อมั่นในความรู้ของตัวเอง เพราะการได้พูดในสิ่งที่เรารู้ อยู่เรื่อย ๆ ก็เหมือนกับการได้ทบทวนความรู้นั้นโดยอัตโนมัติ และยิ่งถ่าย ทอดมากเท่าไรยิ่งทำให้เรามีความมั่นใจมากเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายให้กับตัวเองอีกด้วย

     เห็นไหมครับ “ความเสี่ยงลดได้ ด้วยความรู้ที่เรามี” ถ้าเราเชื่อว่า High Risk High Return เราก็ควรเชื่อซักอีกข้อหนึ่งคือ High Knowledge High Return เพราะยิ่งรู้มาก ยิ่งมีโอกาสสำเร็จได้มากนะครับ 

 

ดร.จักรพันธ์ จันทรัศมี

Consulting Partner

Slingshot Group

 

 

Ready to start your Leadership Journey?