8 สิ่งที่หญิงเก่งไม่ควรทำ

เกือบครึ่งหนึ่งของเดือนพฤษภาคม ผมอยู่ระหว่างเดินทางฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา พอดีมางานรับปริญญาลูกสาวที่ Babson College เมืองบอสตัน เลยถือโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่มาร่วมแสดงความยินดีกับหลานสาวคนโตด้วย

 

ปกติเมื่อมีโอกาสเดินทางต่างประเทศ ผมมักหาทางแวะร้านหนังสือใหญ่ๆ ของแต่ละเมือง เพราะอยากรู้ว่าหนังสือขายดีของเขาคืออะไร ส่วนใหญ่พอแวะเข้าไปก็อาศัยยืนอ่านสักเล่มสองเล่ม ที่บ้านหนังสือเยอะแล้ว อ่านไม่ทัน เลยตัดใจไม่ซื้อ ขออ่านฟรี !

 

คราวนี้ก็เช่นกัน ผมขับรถเที่ยวมาถึงเมืองนิวเฮเวน (New Haven) รัฐคอนเนคติกัต ที่นี่มีมหาวิทยาลัยดังมาก ตั้งมา 300 กว่าปีแล้ว ชื่อเยล (Yale University) มาถึงช่วงบ่ายแก่ๆ เลยออกไปเดินดูเมืองแล้วแวะดูมหาวิทยาลัยของเขา ใหญ่มากจริงๆ เดินจนเมื่อยตุ้ม จึงมาหยุดพักที่ร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย (Yale’s Bookstore)

 

ระหว่างนั่งพัก ก็หยิบหนังสือใกล้ๆ มือมาอ่านเล่มหนึ่งแก้เก้อ เพราะกลัวเจ้าหน้าที่จะหาว่ามานั่งตากแอร์เฉยๆ เลยทำทีเป็นว่ามาหาซื้อหนังสือ หันไปหันมา คว้าหนังสือชื่อ 13 Things Mentally Strong Women Don’t Do (แปลเป็นไทยน่าจะได้ความว่า “13 สิ่งที่ผู้หญิงหัวใจแกร่งไม่ควรทำ”) แต่งโดย Amy Morin มาอ่านโดยไม่ได้ตั้งใจเลือก จะเป็นเพราะฟ้าประทานหรือเหตุบังเอิญ ก็สุดจะคาดเดา

 

หนังสือเล่มนี้บอกว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงและอยากมีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ความรู้สึกและสิ่งเร้าจากภายนอก ต้องไม่ทำ 13 อย่างนี้ ผมขอเลือกมาเล่าให้ฟังแค่ 8 อย่างละกันนะครับ ถ้าเอามาหมด เดี๋ยวหนังสือเขาขายไม่ออก คนแต่งจะมาเล่นงานผม !

 

อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น (Don’t compare yourselves to other people) – ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เธอเปรียบเทียบทุกอย่างกับทุกคน เธอมักคิดว่า สามีคนอื่นดีกว่าสามีตัวเอง ลูกคนอื่นเก่งกว่าลูกของตัวเอง ครอบครัวคนอื่นมีความสุขมากกว่าครอบครัวตัวเอง สะใภ้คนอื่นสบายกว่าตัวเอง เป็นต้น ยิ่งอยู่ยิ่งทุกข์ ที่สำคัญไม่ได้ทุกข์คนเดียว พาคนอื่นทุกข์ไปด้วย

 

อย่าทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบ (Don’t insist on perfection) – ไม่มีใครทำงานได้ดังใจเรา 100% ไม่มีใครดีจนไม่มีที่ติ อย่าทำตัวเป็นคนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ใครทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจ สุดท้ายต้องทำเอง พอทำมากๆ เข้าก็เหนื่อย พอเหนื่อยก็บ่น พอบ่นก็อารมณ์เสีย หงุดหงิด พาลใส่คนอื่นต่อไปอีก

 

อย่าให้ความไม่มั่นใจ ฉุดรั้งตัวเองไว้ (Don’t let self-doubt stop you from reaching your goals) – ลูกพี่ลูกน้องของผมคนหนึ่ง เป็นเด็กฉลาดและเรียนเก่งมาก อันที่จริงเธอน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าและเร็วกว่านี้ แต่เป็นเพราะความโลเล เหมือนไม้หลักปักขึ้เลน ไม่มั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจอะไรสักอย่าง แม้แต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเช่น กินข้าวที่ไหนดี เสื้อผ้าชุดนี้สวยไหม วันหยุดยาวไปเที่ยวไหนกัน ฯลฯ เธอตัดสินใจไม่ได้ กังวลไปซะทุกเรื่อง คิดกลับไปกลับมา หมดเวลาพอดี

 

อย่ามโนไปเองซะทุกเรื่อง (Don’t overthink everything) – ผมเคยมีลูกน้องที่สนิทมากคนหนึ่ง เธอเป็นคนคิดลบแบบไม่น่าเชื่อ ปัญหามี 1 เธอจินตนาการไป 100 คนรอบข้างพลอยจะเป็นโรคประสาทไปด้วย วันหนึ่งเอกสารที่เธอเตรียมไว้สำหรับประชุมหายไปจากโต๊ะ เธอโวยวายว่ามีขโยมเข้ามาในบริษัท ทำคนโกลาหลไปทั้งออฟฟิศ สุดท้ายพบว่าเธอเป็นคนถือไปวางลืมไว้ในห้องน้ำเอง !

 

อย่าให้ความเห็นของคนอื่นมาจำกัดศักยภาพของตนเอง (Don’t let others limit your potential) – มนุษย์มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อคำทำนายที่คนอื่นบอกเรา ทางใดทางหนึ่งดังนี้ บางคนคล้อยตามและทำตัวจนเป็นไปตามคำทำนาย (Self-fulfilling) เช่น หมอดูบอกว่าเมื่อแต่งงานแล้ว ในที่สุดจะต้องเลิกกัน จึงเก็บมาคิดตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีปัญหากับคู่ครอง ก็ครุ่นคิดถึงคำที่หมอดูบอกไว้ เมื่อเวลาผ่านไป คำทำนายจึงกลายเป็นจริง ส่วนคนอีกประเภทจะต่อต้านและทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่า คำทำนายนั้นไม่จริง (Self-Denying) เจ๊ค หม่า เป็นตัวอย่างที่ดีของแนวทางนี้ หลายคนตราหน้าว่าเขาไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จและไม่มีดวงที่จะเป็นเจ้าของกิจการ เขาต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดนั้น ไม่จริง !

 

อย่าโทษตัวเองเมื่อทำผิดพลาด (Don’t blame yourselves when something goes wrong) – คนเราผิดพลาดกันได้ เมื่อผิดแล้วก็เรียนรู้และเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่จมปลักอยู่กับความผิดที่เกิดขึ้น ตีโพยตีพายโทษตัวเอง จนเสียขวัญและหมดกำลังใจ คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย คือคนที่ไม่ทำอะไร … จำไว้ 

 

อย่าเงียบๆ เฉยๆ เมื่อไม่เห็นด้วย (Don’t stay silent) – การอดทนและเงียบไว้ ไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ในทางกลับกัน เป็นการหมักหมมปัญหาไว้ รอวันที่จะปะทุออกมา แต่ ก็ต้องรู้จักแสดงออกอย่างเหมาะสมด้วย ไม่ใช่โวยวายเหมือนคนบ้า เจ้านายเก่าของผมคนหนึ่ง ไม่รู้แกไปฟังใครมาจากไหน มีคนบอกแกว่าถ้าโมโหอย่าเก็บไว้ ให้พูดออกมา ไม่งั้นจะเป็นบ้า … คราวนี้พอโมโห แกเลยจัดหนัก ผมว่าตอนนี้แกบ้าจริงเลย

 

อย่ากลัวที่จะปฏิวัติตัวเอง (Don’t feel bad about reinventing yourselves) – การลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องอาศัยศรัทธาและความกล้ามหาศาล คนหลายคนยอมแพ้กับโชคชะตาและฟ้าลิขิต โดยมักมีคำตอบให้ตนเองเสมอว่าเหตุใดจึงไม่ควรเปลี่ยนแปลง เช่น แก่แล้วเปลี่ยนยาก เหนื่อยแล้วแค่นี้พอ เคยทำแล้วไม่เวิร์ค เป็นต้น เลยไม่ประสบความสำเร็จเสียที

 

ลองสำรวจตัวเองดูดี ๆ ใน 8 อย่างนี้ มีสักกี่ข้อแล้ว ส่วนใครอยากทราบว่าอีก 5 ข้อที่เหลือคืออะไร ลองไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านละกันนะครับ

Ready to start your Leadership Journey?