ผู้นำที่ลูกน้องตามหา

     ผู้นำมีบทบาทสำคัญมากในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และเป็นสถานที่ที่ใคร ๆ ก็อยากมาร่วมงานด้วย แต่ต้องยอมรับว่าพนักงานหลายคนได้รับการอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าเพราะเก่งงานชนิดหาตัวจับยาก แต่บ่อยครั้งที่ไม่ทันได้ตรวจสอบให้ดีว่าคนคนนั้นมีภาวะความเป็นผู้นำพร้อมแล้วหรือยัง

สุดท้ายเมื่อองค์กรตัดสินใจเลือก และโปรโมตพนักงานคนนั้น ก็ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อต้องสูญเสียคนทำงานเก่ง ๆ ไปหนึ่งคน พร้อมกับได้หัวหน้างานที่ไม่ได้เรื่องมาเพิ่มอีกหนึ่งคนในเวลาเดียวกัน ชนิดทูอินวัน เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมว่าคนเก่งงานอาจจะไม่เก่งคนเสมอไป วันนี้จึงขอนำเสนอภาวะผู้นำ 7 อย่างที่ลูกน้องถวิลหา

สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา : ผู้นำที่ดีควรสื่อสารอย่างจริงใจ จัดเตรียมช่องทางในการสื่อสารที่เปิดกว้างสำหรับทีมงาน นอกจากนั้น ยังต้องรู้จักที่จะสื่อสารให้เหมาะสมกับลักษณะนิสัยใจคอของแต่ละคนด้วย

เป็นผู้ฟังที่ดี : การฟังเป็นทักษะสำคัญของการสื่อสารที่มักถูกมองข้ามไป เมื่อหัวหน้าเปิดใจรับฟัง นอกจากจะได้ข้อมูลดี ๆ จากทีมงานแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศให้เกิดความไว้อกไว้ใจกัน (Trust) เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ส่งเสริมศักยภาพและเปิดโอกาสในการเติบโต : ผู้นำควรทำความรู้จักกับนิสัยใจคอ บุคลิก ความสนใจ งานอดิเรก จุดแข็ง จุดอ่อน ฯลฯ ของลูกทีมแต่ละคน เพราะเรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานทั้งสิ้น เมื่อหัวหน้ารู้จักลูกน้องดีพอ ก็จะสามารถช่วยส่งเสริมให้เติบโต และบรรลุเป้าหมายได้อย่างถูกที่ถูกทาง

สอนแต่ไม่ออกคำสั่ง : ภาวะผู้นำไม่ใช่การออกคำสั่งว่าใครต้องทำอะไร แต่หมายถึงการพัฒนาบุคคลนั้น ๆ ให้สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และสร้างสำเร็จได้ด้วยตัวของเขาเอง

มีเป้าหมายที่ชัดเจน : เมื่อผู้นำสามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ย่อมช่วยให้ทุกคนในทีมรู้ว่าต้องโฟกัสเรื่องอะไร และต้องให้ความสำคัญกับสิ่งใด เพื่อจะได้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุดบนจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ติในเชิงสร้างสรรค์ ชมในสิ่งที่ทำได้ดี : โบราณว่าให้ติเพื่อก่อ ยังคงเป็นคาถาอมตะสำหรับหัวหน้างานทุก ๆ คน การให้เสียงสะท้อนกลับ (feedback) ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และที่สำคัญต้องปรับแต่งคำพูดให้ตรง แต่ไม่แรง ในทางกลับกัน เมื่อทำดีอย่าลืมกล่าวคำชมเชย เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วย ข้อนี้สำคัญมากแต่หัวหน้าส่วนใหญ่มักมองข้ามไป

พร้อมเปลี่ยนแปลง : เราไม่สามารถมองเห็นตัวเองได้ตลอดเวลา ฉะนั้น การรับฟังเสียงสะท้อนจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจากลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกค้า และนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หัวหน้าทุกคนควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จงทำตัวให้เป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้และปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดเวลาเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

ท้ายสุดอยากย้ำเตือนว่าความสำเร็จของคนทำงานคือการผสมผสานระหว่างความเก่งงานกับการเก่งคนให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะพอดีอย่างลงตัว

Ready to start your Leadership Journey?