ความศรัทธา กับ ความงมงาย ต่างกันตรงไหน

เมื่อวันก่อนผมอ่านหนังสือชื่อ Speed of Trust ของ Stephen M.R. Covey เขาอธิบายเรื่อง Trust (ความเชื่อใจ ความไว้วางใจ) ไว้ดีมาก

Covey แบ่ง Trust ออกเป็น 4 แบบ ตามแกน 2 แกน

แกนตั้งคือ ความเป็นคนเชื่อคนง่ายหรือเชื่อคนยาก (Propensity of Trust) ส่วนแกนนอนคือ ความเป็นคนคิดวิเคราะห์ ระมัดระวัง (Analysis) มากหรือน้อย

 ช่องที่ 1 (เชื่อคนง่าย ไม่ค่อยระมัดระวัง) เรียกว่า Gullibility แปลว่า พวกถูกหลอกง่าย เป็นพวกที่เชื่อคนอื่นแบบไม่ลืมหูลืมตา (Blind Trust)

 ช่องที่ 2 (เชื่อคนง่าย แต่มีความระมัดระวังก่อนที่จะเชื่อ) เรียกว่า Judgment แปลว่า พินิจพิเคราะห์ก่อนที่จะเชื่อ เป็นพวกเชื่ออย่างชาญฉลาด (Smart Trust)

 ช่องที่ 3 (เชื่อคนยาก และไม่ค่อยพินิจพิเคราะห์) เรียกว่า Indecision แปลว่า ไม่ตัดสินใจ ไม่กล้าเสี่ยง ไม่ลงมือทำอะไรเพราะกังวลไปหมด เป็นพวกที่ไม่เชื่อมั่นใครเลย แม้กระทั่งตัวเอง (No Trust)

 ช่องที่ 4 (เชื่อคนยาก และมีความระมัดระวัง) เรียกว่า Suspicion แปลว่า ระแวง เป็นพวกที่ช่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆ ต้องดูแล้วดูอีก ใช้เวลานานกว่าจะเชื่อใครสักคนหรือเชื่ออะไรสักอย่าง (Distrust)

คนที่อยู่ในช่องที่ 1 และ 3 มีปัญหาแน่ๆ แต่คนส่วนใหญ่คิดว่า ช่องที่ 4 น่าจะปลอดภัยที่สุด แต่อันที่จริงแล้ว คนที่อยู่ในช่อง 4 จะขยับตัวช้า เพราะคิดวกวนไปมา ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่เชื่อใครสักคน หาข้อมูลไปเรื่อยๆ

ช่องที่ดีที่สุดคือ Smart Trust (ช่อง 2) ซึ่งเป็นการเชื่ออย่างมีสติ คิดไตร่ตรองก่อนปักใจเชื่อ

อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี