10 หลักการในการเป็นผู้นำที่ดี

เคยได้ยินชื่อ บ๊อบ ไอเกอร์ ไหมครับ ถ้าไม่เคย นาทีนี้ต้องได้ยินแล้ว เขาเป็น CEO ของบริษัท The Walt Disney ที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักธุรกิจแห่งปี (Business Person of the Year) ประจำปี 2019 โดยนิตยสาร Time Magazine เมื่อเร็วๆ นี้

 

ประวัติของเขาเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา บ๊อบ ไอเกอร์ เกิดในครอบครัวชาวยิว กลางเมืองนิวยอร์ค พ่อเป็นทหารเรือผ่านศึก แม่ทำงานในโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาเริ่มต้นทำงานตั้งแต่อายุ 13 ขวบ เคยทำงานเป็นภารโรง ระหว่างปิดเรียนภาคฤดูร้อน (Summer Janitor) ในโรงเรียนด้วย

 

บ๊อบเริ่มต้นทำงานในตำแหน่ง Studio Supervisor กับบริษัท ABC ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อดังในอเมริกา ขณะที่มีอายุ 23 ปี หลังจากนั้นก็หมุนเวียนทำงานในหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า 20 ตำแหน่งตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีของการทำงาน บริษัท ABC ถูกบริษัท The Walt Disney ซื้อกิจการไปในปี 1996 บ๊อบจึงย้ายสำมะโนครัวมาอยู่กับ Disney จนกระทั้งได้รับการแต่งตั้งเป็น CEO เมื่อปี 2005

 

ตลอดระยะเวลา 15 ปีในฐานะ CEO เขาได้สร้างผลงานที่โดดเด่นไว้อย่างมากมาย อาทิเช่น เข้าซื้อกิจการบริษัท Pixar ของสตีฟ จ๊อบส์ ในปี 2016 เข้าซื้อกิจการบริษัท 21st Century Fox ในปี 2019 ผลักดันให้มีการเปิดสวนสนุกดิสนีย์ที่ฮ่องกงในปี 2005 และที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2016 เป็นต้น

 

ล่าสุด บ๊อบ ไอเกอร์ เขียนหนังสือชื่อ The Ride of a Lifetime พูดถึงหลักการ 10 อย่างที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำ (10 Leadership Principles) หนังสือเล่มนี้ติดอันดับขายดี (Best Seller) ภายในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากวางจำหน่ายเพียงไม่กี่สัปดาห์

 

มาดูกันว่าหลักการ 10 ข้อที่ว่า มีอะไรบ้าง

 

  1. Optimism – ในการทำงานหากผู้นำคิดลบมองเห็นแต่ปัญหาและอุปสรรค องค์กรจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ ผู้นำที่ดีต้องคิดคิดบวก โดยเริ่มต้นจากเชื่อมั่นในตนเองและเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของทีมงาน

 

  1. Courage – ต้องกล้าตัดสินใจและทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงผู้นำที่Play Safe ไม่มีวันที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

 

  1. Focus – อย่าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่มีความสำคัญในฐานะผู้นำต้องมีความชัดเจนในเป้าหมายและลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการจะโฟกัส เพราะไม่เช่นนั้น ทีมงานอาจเสียเวลาและใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด ไปกับเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรง

 

  1. Decisiveness – ผู้นำต้องตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสมการเลื่อนการตัดสินใจไปเรื่อย ๆนอกจากจะทำให้การทำงานขาดประสิทธิผลแล้ว ยังเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของคนทำงานอีกด้วย

 

  1. Curiosity –ความหิวกระหายใคร่รู้จะช่วยให้ผู้นำเข้าถึงคนใหม่ๆ และได้ไอเดียใหม่ๆ ได้มากขึ้น จำไว้ว่านวัตกรรมทุกชนิด ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากความอยากรู้อยากเห็น อยากลองสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ ทั้งสิ้น

 

  1. Fairness –ผู้นำต้องปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเป็นธรรมและเห็นอกเห็นใจ(Empathy) แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องลดความคาดหวังหรือไม่ใส่ใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพียงแต่การทำงานต้องมีมาตรฐานเดียวที่ใช้กับทุกคน การเป็นคนสองมาตรฐานคือสัญลักษณ์ของความไม่ยุติธรรม

 

  1. Thoughtfulness – คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนแสดงความคิดเห็นหรือตัดสินใจจงเตรียมตัวและทำการบ้านก่อนเสมอ อย่างไรก็ตาม พึงตระหนักไว้ว่า ไม่ว่าจะมีข้อมูลมากเพียงใด การตัดสินใจทุกครั้ง ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี เป็นไปไม่ได้ที่จะรอจนกระทั้งทุกอย่างพร้อมสรรพจัดตัดสินใจหรือลงมือทำ

 

  1. Authenticity – จริงใจไม่เป็นคนพูดอย่างทำอย่างต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทีมงาน จำไว้ว่า การกระทำดังกว่าคำพูดเสมอ

 

  1. Relentless pursuit of perfectionism – ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอย่าพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่การลงรายละเอียดเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการแสดงผู้อื่นรู้สึกว่าคุณใส่ใจในเรื่องนั้น ๆ แต่มีข้อพึงระวังตรงที่ การลงรายละเอียดมากเกินไป อาจทำให้คนทำงานคิดว่าคุณไม่ไว้วางใจ เพราะฉะนั้นจงบริหารเส้นแบ่งบาง ๆ นี้ให้ดี

 

  1. Integrity –ความสื่อสัตย์สุจริตเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้นำจงใส่ใจกับสิ่งนี้ในทุก ๆ เรื่องที่ทำ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ และไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับใครหรืออะไร นอกจากนั้นยังต้องเน้นย้ำทีมงานทุกคน ให้ความสำคัญและถือปฏิบัติในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดด้วย

 

หากคุณเป็นผู้นำ ลองทบทวนตัวเองดูว่า ได้ปฏิบัติตามหลักการ 10 ข้อนี้ มากน้อยเพียงใด แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้นำ ลองประเมินหัวหน้าหรือผู้บริหารในองค์กรของคุณ ด้วยใจเป็นกลางว่า เขา/เธอปฏิบัติตามหลักการนี้ได้สักกี่ข้อ และจะดีที่สุด ถ้าตัดบทความนี้แล้วส่งให้ผู้ที่คุณคิดว่าน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด เพื่อเป็นวิทยาทาน

Ready to start your Leadership Journey?