ทำไมการมีเป้าหมายในชีวิต จึงเป็นเรื่องสำคัญ
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการวิจัย ด้วยการเก็บข้อมูลจากนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี จบการศึกษาและทำงานแล้ว จำนวนกว่า 600 คน พบว่า
27% ไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
60% มีเป้าหมายในชีวิตระยะสั้น แบบคร่าวๆ
10% มีเป้าหมายในชีวิตระยะสั้น ที่ชัดเจน
3% มีเป้าหมายในชีวิตระยะยาว อย่างชัดเจน
หลังจากทำการสำรวจ ก็ได้ติดตามเฝ้าดูชีวิตของกลุ่มตัวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอีกกว่าสิบปี พบว่ากลุ่มคน 3% ที่มีเป้าหมายระยะยาวอย่างชัดเจน ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในสังคมภายในระยะเวลา 20 ปีหลังจบการศึกษา ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ไม่พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ
งานวิจัยนี้ ถูกยืนยันความน่าเชื่อถือเพิ่มเติมโดย Locke และ Lathan นักจิตวิทยาที่ทำการวิจัยเรื่องการตั้งเป้าหมาย ซึ่งพบว่าการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มแรงจูงภายในของตนเอง ทำให้เกิดความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ ไม่ต่างอะไรกับคำว่า “ฝันให้ไกลและไปให้ถึง”
คนที่ประสบความสำเร็จมากมายทุกคนในโลกนี้ ล้วนมีเป้าหมายในชีวิตทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น Mark Zukerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook มีเป้าหมายเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องการเชื่อมต่อคนทั้งโลกเข้าหากัน และนอกจากจะกำหนดเป้าหมายระยะยาวแล้ว เขายังกำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะกลางเพื่อเสริมส่งเป้าหมายระยะยาวอีกด้วย เช่น เขาเคยกำหนดไว้เมื่อปี 2012 ว่า ภายในปี 2016 เขาจะสร้างสร้าง AI ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย และภายในปี 2017 เขาจะต้องเดินทางไปพบปะผู้คนให้ครบทั้ง 50 รัฐในอเมริกา เป็นต้น
การมีเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาผู้คนไปสู่ความสำเร็จ เพิ่มแรงจูงใจในการเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ท้าทาย
แต่น่าแปลกใจที่คนไทย ไม่ค่อยคุ้นชินกับการตั้งเป้าหมายระยะยาว
เชื่อไหมว่าตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทยมา เราไม่เคยมีแผนระยะยาวเลย อย่างดีเราก็มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5-6 ปีเท่านั้น
จนกระทั้งเมื่อปี 2560 นี่เอง ที่เราเพิ่งจะมีแผน 20 ปี เรียกว่า “ยุทธศาสตร์ชาติ” เป็นครั้งแรก !
แล้วคุณละ มีเป้าหมายในชีวิตระยะยาวที่ชัดเจนรึยัง ?