“คิดต่างและคิดใหญ่” เป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำที่ชาญฉลาด – หนังสือ The Intelligent Leadership กล่าวไว้

ผู้นำหลายคนคงหนีไม่พ้นสถานการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้รับมือกับกระแสดิสรัปชั่นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงสินค้าหรือบริการให้สู้กับคู่แข่งได้ หรือการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

ในการเปลี่ยนแปลงให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องคิดให้ต่างจากเดิมและคิดให้ใหญ่กว่าเดิม อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า “การทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิมๆ แล้วหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง นั่นคือความบ้า” (Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results)

แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถคิดต่างและคิดใหญ่ได้?

วันนี้มี 4 วิธีการมาแนะนำ

1. กำหนดเวลาเพื่อที่จะได้คิด – หลายคนอาจรู้สึกว่า แค่งานแต่ละวันก็แทบไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปคิด อันที่จริงปัญหาเรื่องการไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับกิจกรรมมากมายที่ต้องทำ เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับทุกคน แต่คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขามีเวลามากกว่าคนอื่น หากแต่สามารถบริหารกิจกรรมที่มีมากมายใส่ลงไปในเวลาที่มีจำกัดได้ดีกว่าคนอื่นต่างหาก ดังนั้นหากเห็นว่าการคิดเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องจัดสรรเวลาให้เป็นเรื่องเป็นราว

2. มองโลกในแง่ดี เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเปิดโอกาสให้กับสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยลอง – หนึ่งในคุณสมบัติของความเป็นผู้นำคือการมองโลกในแง่ดี มองให้เห็นโอกาสในทุกๆ ปัญหาและอุปสรรค เปิดใจรับฟัง สนใจสอบถาม หาข้อมูล และให้โอกาสทั้งตัวเองและทีมงานในการได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ

3. เริ่มต้นจากสถานการณ์ที่เป็นจริง – เมื่อมีแนวคิดหรือเห็นโอกาสใหม่ๆ ให้มองย้อนกลับมาดูตัวเองสักนิดตามความเป็นจริงว่า เราอยู่ตรงไหน เก่งเรื่องอะไร ขาดเหลืออะไร แล้ววางแผนเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ที่เป็นจริง ไม่ใช่เพ้อฝันเลื่อนลอยไปเรื่อยเปื่อย วิสัยทัศน์กับการคิดเพ้อเจ้อต่างกันแค่นิดเดียวตรงที่ คิดเพ้อเจ้อคือการคิดฝ้นที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและโอกาสที่เป็นไปได้

4. ขายฝันหรือส่งต่อความคิดให้กับผู้อื่น – ความคิดดีๆ หลายอย่าง ถูกจำกัดด้วยความสามารถในการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ สร้างคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือกันจากหลายๆ ส่วน ถ้าสามารถขายฝันและส่งต่อความคิดให้คนได้มากเท่าไร โอกาสที่ความคิดนั้นจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว